กสทช. เผยความคืบหน้าล่าสุดแจ้งคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัลแล้ว 7 ช่อง ย้ำ ต้องเยียวยาพนักงานหลังจากนี้ให้ดีที่สุด
เวลา 15.00 น. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้แถลงความคืบหน้าการขอยุติประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ล่าสุดมีผู้ประกอบการแจ้งคืนใบอนุญาตแล้ว 7 ช่อง ได้แก่
1. สปริงนิวส์ ช่อง 19
2. วอยซ์ทีวี ช่อง 21
3. MCOT Family ช่อง 14
4. นาว ทีวี ช่อง 26
5. ไบรท์ ทีวี ช่อง 20
6. ช่อง 3 แฟมิลี หมายเลข 13
7. ช่อง 3 SD หมายเลข 28
โดย นายฐากร กล่าวว่า หลังจากนี้ช่องที่แจ้งคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัลจะต้องส่งเอกสารมายังสำนักงาน กสทช. อย่างเป็นทางการ เพื่อพิจารณากำหนดมาตรการเยียวยาต่อไป ขณะที่ก่อนหน้านี้มีทีวีที่ประกอบกิจการทั้งหมด 22 ช่อง คืนใบอนุญาต 7 ช่อง จึงเหลือที่ยังดำเนินกิจการต่อ 15 ช่อง ทั้งนี้ต้องการฝากไปยังผู้ประกอบกิจการที่คืนใบอนุญาต สิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากที่ได้เงินจากรัฐบาลคืนกลับไปแล้ว ขอให้เยียวยาพนักงานให้ดีกว่ากฎหมายแรงงาน
จับตาหลายช่องยุติกิจการทีวีเส้นตายวันนี้ (10 พ.ค.) ขณะที่ ‘สปริงนิวส์’ แจ้งอย่างเป็นทางการ คืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล
วันที่ 10 พ.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลแจ้งต่อ กสทช. ว่าจะคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัลหรือไม่ ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการจำนวนหลายรายอยู่ระหว่างประชุมเพื่อตัดสินใจ โดยแต่ละช่องจะต้องคิดให้รอบคอบเพราะเงินชดเชยที่จะได้รับไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับผลประกอบการ
ทั้งนี้หลังจากมีการประชุมร่วมกันระหว่าง นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กับตัวแทนผู้ประกอบกิจการฟรีทีวี ทาง กสทช. จึงได้ชี้แจงให้ทราบถึงหลักเกณฑ์เพื่อให้ผู้ประกอบการตัดสินใจ โดยการขอยุติประกอบกิจการสามารถแจ้งได้ตั้งแต่วันที่ 7 ถึงช่วงเย็นของวันนี้ (10 พ.ค.) เป็นวันสุดท้าย
จากนั้นผู้ประกอบการจะต้องส่งแผนงานยุติกิจการให้ กสทช. รับทราบภายใน 60 วัน และแจ้งผู้ชมให้ทราบล่วงหน้าก่อนจอดำ 30 วัน โดย กสทช.จะพิจารณาประมาณ 30-45 วัน หากไม่มีปัญหาจึงจะอนุมัติให้จอดำได้
ส่วนเงินชดเชยที่ กสทช.จ่ายคืนให้กับผู้ประกอบกิจการ จะได้รับหลังจากจอดำแล้ว 1 วัน แต่ละช่องจะได้รับเงินคืนในจำนวนที่ไม่เท่ากัน ขึ้นกับผลประกอบการในช่วง 5 ปีที่ประกอบกิจการ ตามสูตรที่ กสทช.คำนวณไว้แล้ว ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับเงินประมูลที่จ่ายไปแล้ว อายุประมูลที่เหลือ รวมถึงอายุประมูลตลอดใบอนุญาต และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างประกอบกิจการมาคำนวณร่วมตามสูตร และจะเหลือเป็นเงินที่ต้องชดเชย
ขณะที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่เข้าร่วมประชุมกับทาง กสทช.ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ในทันที และระหว่างนี้หลายบริษัทอยู่ระหว่างการประชุมกรรมการบริหาร โดยเฉพาะช่องที่ถูกจับตาว่าจะคืนใบอนุญาตหรือไม่ ซี่งที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุป เช่น กลุ่มทีวีช่องเด็ก ซึ่งมีทั้งช่อง 3 และช่อง 9 อสมท.
ส่วนผู้ประกอบการช่องข่าว เช่น ไบรส์ทีวี / สปริงนิวส์ / ช่องนาว และ เดลินิสว์ทีวี มีแนวโน้มว่าจะคืนใบอนุญาต ซึ่งหลักที่ต้องพิจารณาคือ แผนทางการการเงิน และแผนบริหารจัดการทั้งหมด ซึ่งมีแนวโน้มว่าถ้าจะมีผู้ประกอบการรายใดในจำนวน 22 ช่องไปยื่นขอยุติกิจการจะเดินทางพร้อมกันไปที่ กสทช. ในช่วงบ่ายวันนี้
ขณะที่ล่าสุด บมจ. นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น (NEWS) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าที่ประชุมได้มีมติอนุมัติให้บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด (SPTV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ คืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ (หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ) ให้แก่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 949.70 ล้านบาท