การชุมนุม การ์ดประชาชน ข่าวการเมือง คณะราษฎร 2563

ผู้ก่อเหตุยิงการ์ดอาชีวะ เข้ามอบตัวแล้ว

วันนี้ ( 27 พ.ย.) นายธนเดช ศรีสงคราม หัวหน้ากลุ่มอาชีวะ ของนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ ผู้ก่อเหตุยิงการ์ดอาชีวะ หลังจากจบการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร บริเวณด้านหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก พร้อมบิดา…

Home / NEWS / ผู้ก่อเหตุยิงการ์ดอาชีวะ เข้ามอบตัวแล้ว

ประเด็นน่าสนใจ

  • นายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ ผู้ก่อเหตุยิงการ์ดอาชีวะ เข้ามอบตัวที่ สน.พหลโยธินแล้ว
  • ระบุเป็นความขัดแย้งส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยง กับกลุ่มอื่นอย่างตามที่ถูกกล่าวอ้าง ไม่มีใครจ้างมา เข้ารพ.ยังต้องจ่ายเงินเอง
  • วันเกิดเหตุเพียงมาเข้าร่วมในฐานะประชาชน และต้องการช่วยเป็นการดูแลผู้ชุมนุม

วันนี้ ( 27 พ.ย.) นายธนเดช ศรีสงคราม หัวหน้ากลุ่มอาชีวะ ของนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ ผู้ก่อเหตุยิงการ์ดอาชีวะ หลังจากจบการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร บริเวณด้านหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก พร้อมบิดา ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ตามหมายจับในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธ

โดยนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ ได้ระบุว่า ตนเองยอมรับสารภาพในทุกข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุของการยิงนั้น เป็นปัญหาส่วนตัวกับคนเจ็บ เพราะในช่วงที่ผ่านมา คู่กรณีมักจะมาโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับความคิดเห็นต่าง ของตนเองตลอดมา เรื่องของการจามจ้วงสถาบัน ซึ่งตนเองไม่เห็นด้วย

ส่วนในวันเกิดเหตุนั้น มาเข้าร่วมการชุมนุมด้วยตนเอง ในฐานะประชาชน จึงไม่ได้ติดปลอกแขน ในกลุ่มคู่กรณีนั้นใส่ปลอกแขน แต่ก็รู้กันว่า มาทำหน้าที่การ์ด ช่วยเป็นการ์ดดูแลประชาชนที่มาเข้าร่วมการชุมนุม

ส่วนอาวุธปืน ระบุว่า มีหัวหน้าเอามาให้ ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุในวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้น ตนเองเลยคิดว่า จึงเป็นชนวนเหตุให้มีการนำอาวุธมาให้

นายภาสพงศ์ ยังได้กล่าวว่า การที่ตนเองมาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ ไม่ได้มีใครจ้างมาแต่อย่างใด ขนาดตนเองไปนอน โรงพยาบาล ก็ยังคงต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง

หัวหน้ากลุ่ม ระบุเหตุเกิดขึ้นระหว่างบุคคล

นายธนเดช หัวหน้าของกลุ่มฯ ยืนยันว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องระหว่างบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง การชุมนุม หรือสถาบันแต่อย่างใด และกลุ่มของตนเองไม่ได้เป็นสาย ไม่ได้เป็นสปาย ให้กับกลุ่มใด ตามที่มีการเชื่อมโยงกันไปในโลกออนไลน์

ซึ่งในส่วนของทางคดี ขอให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจดำเนินการต่อไป ส่วนความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ก็ได้ทักแชทไปขอโทษกับคู่กรณีแล้ว แต่ทางคู่กรณีจะยอมรับคำขอโทษหรือไม่นั้นก็เป็นสิทธิ์ของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งในวันดังกล่าว ตนเองไม่ได้อยู่ด้วย