ใบขับขี่

มติตั้งกรรมการสอบ อธิบดีศาลทุจริตฯ ภาค 8 ไม่ให้ตรวจใบขับขี่

คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม มีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีอธิบดีศาลทุจริตฯ ภาค 8 ไม่ให้ตำรวจตรวจใบขับขี่ ขณะที่ ตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราช ขยายเวลาสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจหลายนาย ต้องทำอย่างรอบคอบ นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม…

Home / NEWS / มติตั้งกรรมการสอบ อธิบดีศาลทุจริตฯ ภาค 8 ไม่ให้ตรวจใบขับขี่

คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม มีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีอธิบดีศาลทุจริตฯ ภาค 8 ไม่ให้ตำรวจตรวจใบขับขี่ ขณะที่ ตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราช ขยายเวลาสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจหลายนาย ต้องทำอย่างรอบคอบ

นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ว่า ที่ประชุม ก.ต. มีมติให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฎคลิปภาพ นายไกรรัตน์ วีรพัฒนาสุวรรณ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 โดนเรียกตรวจใบขับขี่ จนมีการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจในพื้นที่ สภ.อ.ทุ่งใหญ่ ซึ่งทางศาลยุติธรรมจะตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวให้รอบด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย

โดยการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมได้เซ็นหนังสือลงวันที่ 10 พ.ค.ให้ นายไกรรัตน์ ชี้แจงรายงานข้อเท็จจริงตามเรื่องที่ปรากฎ มายังสำนักงานศาลยุติธรรมโดยนายไกรรัตน์ เองได้ทำหนังสือชี้แจงรายงานข้อเท็จจริงกลับมาในวันเดียวกัน (10พ.ค.)ซึ่งในการประชุม ก็ได้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม จนมีมติตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง

สำหรับการสอบข้อเท็จจริงนั้นคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นจะมีการสอบว่าพฤติการณ์หรือข้อมูลที่ปรากฎดังกล่าวรวมถึงคำชี้แจงของนายไกรรัตน์เข้าข่ายมีมูลที่จะกระทำผิดวินัยหรือไม่ โดยไม่ว่าผลจะปรากฏอย่างไร ก็ต้องจะส่งผลการสอบข้อเท็จจริงไปยังคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.) พิจารณากลั่นกรองทำความเห็นส่งคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม พิจารณาต่อไป

ขณะที่ ตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ขยายเวลาสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ เนื่องจากวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจหลายนายหนึ่งในคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ให้ข้อมูลว่า คณะกรรมการ ได้สอบปากคำ ร้อยตำรวจเอกไพศาล ใจห้าว รองสารวัตรจราจรสถานีตำรวจภูธรทุ่งใหญ่ หัวหน้าชุดจุดตรวจ,สิบตำรวจโทธีระพงศ์ เพชรจันทร์ทอง และสิบตำรวจตรี เอกพล จุ้ยส่องแก้ว แล้ว

ซึ่งการสอบตำรวจทั้ง 3 นาย มีการแยกสอบกันคนละห้อง และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ ขั้นตอนการสอบตำรวจทั้ง 3 นาย เบื้องต้นเสร็จสิ้นแล้ว แต่ขบวนการสอบสวนยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากพบว่า วันเกิดเหตุยังมีตำรวจประจำด่านตรวจอยู่ร่วมเหตุการณ์อีกหลายนาย คณะกรรมการจึงขยายเวลาสอบข้อเท็จจริง จากเดิมต้องสรุปผลสอบข้อเท็จจริง เสนอผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รับทราบวันที่ 13 พฤษภาคม ต้องขยายออกไปอีก เพื่อสอบตำรวจทุกนาย และให้ผลการสอบเป็นไปอย่างสมบูรณ์และรอบครอบ