การชุมนุม คณะราษฎร 2563 รัฐสภา เกียกกาย ไทยภักดี

ลำดับเหตุการณ์ชุมนุม 17 พ.ย. บริเวณรัฐสภา เกียกกาย

เกาะติดรายงานการชุมนุมบริเวณรัฐสภา เกียกกาย ของทั้งคณะราษฎร กลุ่มไทยภักดี

Home / NEWS / ลำดับเหตุการณ์ชุมนุม 17 พ.ย. บริเวณรัฐสภา เกียกกาย

ประเด็นน่าสนใจ

  • #ไทยภักดี นำโดย หมอวรงค์ ได้รวมตัวกันตั้งแต่ช่วงสาย ก่อนยื่นหนังสือถึงส.ว. ผ่าน รองประธานวุฒิสภาแสดงจุดยืนคัดค้าน การตั้ง สสร. แก้ไข รธน. ก่อนเดินทางไปยังศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ยื่นหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อคัดค้านการการตั้ง สสร. เพื่อแก้ไข รธน. เปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศไทย
  • กลุ่มคณะราษฎร 2563 ได้รวมตัวกัน ใน 2 จุดด้วยกันคือ แยกเกียกกาย และฝั่งทางด้านหน้าบริษัทบุญรอด ใกล้กับประตูรัฐสภา
  • ตั้งแต่ช่วง 16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าประชิดแนวรั้ว จนท.ประกาศเตือนห้ามเข้าใกล้แนว หรือ รื้อแนวไม่เช่นนั้นจะฉีดน้ำ
  • ผู้ชุมนุมเข้ารื้อแนวกั้น ทำให้มีการฉีดน้ำ ใช้แก๊สน้ำตาเป็นระยะๆ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมยึดพื้นที่บริเวณแยกเกียกกายได้ คงเหลือบริเวณด้านหน้าฝั่ง บ.บุญรอด ที่ยังฝ่าแนวกั้นของจนท.ไม่ได้
  • มีการปะทะกันของมวลชนเสื้อเหลือง-คณะราษฎร
  • ช่วง 19.00 น. ผู้ชุมนุมดันแนวตำรวจไปยังด้านหน้าประตูรัฐสภาได้ มีแกนนำขึ้นปราศรัย ซึ่งในช่วงเวลาประมาณ 20.15 น. มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น บริเวณแยกเกียกกายอีกครั้ง หลังมีเสียงดังคล้ายปืนและมีผู้บาดเจ็บ รายงานในภายหลังระบุว่า เป็นการถูกยิง
  • ทำให้มีการประกาศยุติการชุมนุมในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ก่อนนัดรวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 18 พ.ย.

🔴️ ลำดับเหตุสถานการณ์ ม็อบ 17 พ.ย.

จากการการนัดชุมนุมของทั้งกลุ่มคณะราษฎร 2563 ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยจะมีการปักหลักค้างคืนที่บริเวณโดยรอบรัฐสภาเกียกกาย และจะมีกลุ่มไทยภักดี ในช่วงเช้า เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้อง คัดค้านการแก้ไข รธน. ในเวลา 09.00 น.

23.00 – บาดเจ็บ 55 ราย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บจำนวน 55 ราย โดยศูนย์เอราวัณ ได้รายงานยอดผู้บาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์การชุมนุมบริเวณรัฐสภาเกียกกาย เข้ารักษาตัวที่ รพ. 4 แห่ง ในจำนวนนี้ เป็นผู้บาดเจ็บที่ถูกยิง 6 ราย

21.00 – แกนนำประกาศยุติการชุมนุม

ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว โดยแกนนำขอให้ทุกคนกลับบ้านทางฝั่งบ.บุญรอด ไปเป็นกลุ่ม งดกลับทางฝั่งบางโพคาดจะไม่ปลอดภัย พร้อมนัดหนายพรุ่งนี้ 16.00 ชุมนุมที่ราษฎรประสงค์

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ได้ออกมาตรวจสอบบริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภา โดยระบุว่า รู้สึกเป็นห่วงการชุมนุม โดยตนเองนั้นเห็นว่า การชุมนุมไม่ใช่ปัญหา ขอให้เป็นการชุมนุมโดยสงบ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ มีการปะทะกัน ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งไม่คิดว่าจะสถานการณ์จะลุกลามมาไกลขนาดนี้

20.30 – เกิดเหตุวุ่นวายตรงถนนทหารใกล้แยกเกียกกาย

จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณถนนทหารใกล้แยกเกียกกาย ซึ่งในช่วงเวลาประมาณ 20.15 – 20.20 น. มีเสียงดังคล้ายประทัดเกิดขึ้น จำนวน 4-5 ครั้ง หลังจากนั้นทีมการ์ดก็กรูกันเข้าไปยังจุดที่มาของเสียง ซึ่งมีรายงานผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ยังไม่ยืนยันจำนวน โดยในรายงานเบื้องต้น 4 ราย

ในขณะนี้ทีมการ์ดของผู้ชุมนุมกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ และให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องไปรวมที่จุดด้านหน้ารัฐสภา

19.00 – จนท. ถอยร่นกลับไปตั้งหลักที่ประตูรัฐสภา

กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขยับมาอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้ารัฐสภา เกียกกายแล้ว ซึ่งจนท. จากบริเวณแนวแบริเออร์ ด้านหน้าบุญรอด ก็ถอยกลับมาตั้งหลักที่บริเวณประตูรัฐสภาแล้ว

ทำให้กลุ่มผู้ชุมุนมเข้าพท. ถนนสามเสนด้านหน้ารัฐสภา ได้แล้วตั้งแต่บริเวณแยกเกียกกายยาวไปถึงถึงฝั่งด้านหน้าบริษัทบุญรอด

19.00 – สรุปสถานการณ์

ตอนนี้การชุมนุมยังคงมีอยู่โดยรอบพื้นที่รัฐสภา เกียกกาย ซึ่งโดยเฉพาะบริเวณทางด้านของบริษัทบุญรอด จนท.ยังตรึงแนวไว้อยู่ ไม่ให้ผู้ชุมนุมรื้อ-ดึงแบริเออร์ออกได้ โดยตรงจุดนี้จึงยังคงมีการยิงแก๊สน้ำตา และ ฉีดน้ำเป็นระยะ ๆ

ส่วนบริเวณทางแยกเกียกกาย ตอนนี้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่บริเวณแยกเกียกกาย ส่วนทางด้านของตำรวจก็คงตรึงแนวอยู่ตรงถนนทหารด้านข้างรัฐสภา ก่อนถึงหน้าวัดแก้วฟ้าจุฬามณีเล็กน้อย

17.40 – เหตุชุลมุนสงบแล้ว

ทางการ์ดทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุย เจรจากันแล้วนะครับ มีการยกมือไหว้ขอโทษขอโพยกัน ทำให้เหตุการณ์ตอนนี้เริ่มสงบแล้ว การขว้างปาหยุดแล้ว เริ่มสงบลงแล้ว หลังจากการ์ดของแต่ละฝั่งพยายามกันคนที่ขว้างปาออกไป ทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว

17.20 – กลุ่มคณะราษฏร ปะทะ กลุ่มเสื้อเหลือง

หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร ที่มาจากทางฝั่งแยกบางโพได้เข้ามายึดพื้นที่ของแยกเกียกกาย ในขณะเดียวกันมีกลุ่มเสื้อเหลืองที่อยู่ทางฝั่งถนนทหาร (คนละมุมกัน) ก็ได้เข้ามาใกล้กับแยกเกียกกาย ทำให้สุดท้ายเกิดเหตุชุลมุนกันขึ้น

มีการขว้างปาสิ่งของเข้าหากัน ไม่ว่าจะเป็นขวด ก้อนหิน ทำให้มีผู้บาดเจ็บบางส่วนแล้ว

17.00 – ผู้ชุมนุมยึดแยกเกียกกายได้แล้ว

กลุ่มผู้ชุมุนุมได้ใช้ห่วงยางเป็นที่นำมารวมกลุ่มกันเป็นรูปแบบโล่กระดองเต่า ขยับเข้าประชิดแนวรั้วกั้นของทางจนท. ตำรวจได้ ทำให้ต้องมีการขยับรถฉีดน้ำแรงดันสูงถอยออกไป

ซึ่งในอีกไม่กี่นาทีถัดมา ทางฝั่งของจนท. ก็ได้มีการถอยกลับไปเข้ายังบริเวณถนนด้านข้าง

16.00 – แยกเกียกกายมีการฉีดน้ำ

บริเวณแยกเกียกกายมีการฉีดน้ำอีกครั้งหนึ่ง

16.00 – หน้าบุญรอดตึงเครียด

บริเวณด้านหน้าบริษัทบุญรอดฯ สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น เนื่องจากผู้ชุมนุมเข้าประชิดแนวแบริเออร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการล้มแบริเออร์ แถวแรกออก รวมถึงรื้อแนวรั้วลวดหนาม ออก ทำให้เหลือแนวกั้นที่เป็น แบริเออร์ แถวที่ 2-3 ซึ่งมีรั้วลวดหนามกั้นอยู่

โดยจนท. ได้ประกาศเตือนให้ถอยออกจากแนวแบริเออร์ ไม่เช่นนั้นจะมีการฉีดน้ำทันที ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอยู่ในแนวแบริเออร์ชุดที่ 2 ซึ่งจนท. ย้ำว่า หากอยู่นอกแนวชุดที่ 1 จะไม่มีการฉีดน้ำแต่อย่างใด

หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้รื้อแนวแบริเออร์แถวที่สองออก ก็ได้มีการฉีดน้ำ และใช้แก๊สน้ำตาทันที

15.20 – กลุ่มผู้ชุมนุม สื่อฯ ถอยห่างแนวรั้ว

หลังจากที่มีการฉีดน้ำในรอบหลัง ๆ เป็นน้ำที่มีการผสมสารเคมี ทำให้ทั้งผู้ชุมนุม สื่อฯ รวมถึง จนท. ที่อยู่บริเวณแนวรั้วแบริเออร์ ได้รับผลกระทบจากการฉีดน้ำของทางฝั่งจนท. ทำให้ต้องถอยห่างแนวรั้วออกมา เพื่อล้างหน้า ล้างตัวกัน

15.00 – จนท. ฉีดน้ำ ให้กลุ่มผู้ชุมนุมขยับห่างแนวกั้น

ในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประชิดแนวรั้วของแบริเออร์ บางส่วน ทำให้จนท.ได้มีการแจ้งเตือนให้ถอยห่าง โดยระบุว่า ให้ชุมนุมโดยสงบในระยะ 50 เมตร ซึ่งต่อมาก็ได้นำไปสู่การฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เป็นระยะ ๆ

12.30 – จนท. ย้ำ พท. 50 ม. จากรัฐสภา ห้ามชุมนุม

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินตรวจพื้นที่โดยรอบรัฐสภา เกียกกาย เพื่อตรวความเรียบร้อย บริเวณเส้นทางเข้าสู่พื้นที่รัฐสภา ซึ่งได้ย้ำว่า พื้นที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา นั้นได้ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมในระยะ 50 เมตร ไม่อนุญาตให้มีการจัดกิจกรรมชุมนุมใด ๆ

11.45 – กลุ่มไทยภักดี เข้ายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด

เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. กลุ่มไทยภักดี ได้เดินทางถึงบริเวณศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งได้เข้ายื่นหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านทางสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อคัดค้านการตั้งสสร. ร่างรัฐธรรมนูญ

10.45 – กลุ่มไทยภักดี ยื่นหนักงสือคัดค้านแก้ รธน. เปลี่ยนโครงสร้างประเทศ

นพ. วรงค์ ได้ยื่นจดหมายกับ พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา โดยแสดงจุดยืนคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะมีการแก้ไข เปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศ

10.00 – ตัวแทนกลุ่มไอลอว์ ถึงรัฐสภา

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการไอลอว์ เดินทางถึงรัฐสภาแล้ว เพื่อรอเข้าชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

09.15 – หมอวรงค์ ปราศรัย ยันค้าน 3 ร่างรธน. ไม่ใช่ 1

หลังจากเดินทางมาถึง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ก็ได้ปราศรัยอยู่ ยืนยันคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 3 ร่าง ที่จะปูทางไปสู่ สสร. ไม่ใช่เฉพาะร่างของไอลอว์เท่านั้น เปลี่ยนแปลงมากกว่าร่างอื่น ๆ ดังนั้นขอให้สังคมเข้าใจว่า กลุ่มไทยภักดีไม่ได้คัดค้างร่างไอลอว์ แค่ร่างเดียว ยืนยันว่า รธน. 60 เปิดทางให้มี ส.ส.หน้าใหม่ เต็มสภา ไม่มีมุ้งเหมือนเช่นที่ผ่านมา

การเปิดทางเลือก ส.ว. นั้นจะเป็นการเปิดช่องให้ ส.ว. ก็จะเป็นฐานเสียง-กลุ่มก้อนที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง และจะนำไปสู่เผด็จการรัฐสภา นอกจากนี้ รธน. ฉบับนี้ เป็นรธน.ปราบโกง มีข้อกำหนดชัดเจนถึงการลงโทษ ส.ส., ปิดทาง ส.ส.ที่ทำผิดกลับมาเลือกตั้ง, หลบหนีคดี

นอกจากนี้ ยังระบุว่า อีกกลุ่มหนึ่งที่อ้างว่า ปฏิรูปสถาบัน แต่สิ่งที่กลุ่มนั้นแสดงออก ไม่ได้สื่อถึงการปฏิรูปแต่อย่างใด แต่เป็นการคุกคาม จาบจ้วงอย่างชัดเจน

ส่วนในวันนี้ กลุ่มไทยภักดีจะยื่นหนังสือถึง ส.ว. เพียงอย่างเดียว เพราะมองว่า สุดท้าย ส.ส. ก็จะเลือกเพื่อผลประโยชน์ของพรรค โดยเวลา 13.30 น. กลุ่มไทยภักดี ก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงสำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะอีกด้วย

09.00 – ถึงเวลานัดหมายกลุ่มไทยภักดี

กลุ่มไทยภักดี เริ่มมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะชุมนุมกันบริเวณด้านนอกรัฐสภา โดยจะปักหลักห่างจาก พื้นที่ห้ามชุมนุมในบริเวณรัฐสภา

ทางด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี ก็ได้เดินทางมาถึงบริเวณกลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมาถึงก่อน ก็ได้ปราศรัยอยู่ ยืนยันคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 3 ร่าง ที่จะปูทางไปสู่ สสร. ไม่ใช่เฉพาะร่างของไอลอว์เท่านั้น

08.30 – กลุ่มกองทัพธรรมถึงแยกเกียกกาย

กลุ่มกองทัพธรรม ซึ่งเดินทางมาเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มไทยภักดีของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ในการยื่นหนังสือและรายชื่อคัดค้านการแก้ไขรธน. 2560

08.00 – บรรยากาศโดยรอบแยกเกียกกาย

บริเวณแยกเกียกกาย ฝั่งมุ่งหน้าแยกบางโพ มีแนวรถเมล์เหลืองที่ทางจนท. เตรียมไว้ พร้อมกับมีแนวรั้วลวดหนาม และรั้วสังกะสีกั้น และเปิดช่องทางไว้ 1 ช่อง สำหรับให้รถผ่านได้บางส่วน ซึ่งก็จะเป็นรถที่มาจากเส้นทางบริเวณถนนทหาร หรือ จากบริเวณรัฐสภา

สำหรับบริเวณท่าเรือเกียกกายยังคงใช้บริการได้ตามปรกติ

07.30 – บรรยากาศโดยรอบแยกเกียกกาย

บรรยากาศบริเวณ แยกเกียกกาย ที่มีการปิดการจราจร ซึงตรงจุดนี้ ไม่ว่าจะมาจากแยกบางโพ หรือ ออกไปแยกบางโพ จะต้องเดินเข้าออกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่อนุญาตให้รถยนต์เข้ามาแต่อย่างใด

ส่วนเส้นทางที่มาจากบริเวณถนนทหาร รถยังคงสามารถเปิดทางเข้ามาได้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเส้นทางหลัก สำหรับใช้เข้าออกของ ส.ส. / ส.ว.

ส่วนอีกเส้นทางหนึ่ง มาจากแยกบางกระบือ มีการปิดกั้นแนวแบริเออร์ บริเวณด้านหน้า บ.บุญรอดฯ

06.30 – ปิดการจราจรรอบรัฐสภาเกียกกาย

ถนนรอบพื้นที่รัฐสภาเกียกกาย มีการปิดเส้นทางแล้ว โดย

  1. แยกบางโพ มีการปิดทางเข้าไปยังแยกเกียกกาย
  2. เลยแยกบางโพ ก่อนถึงสะพานข้ามไปยังแยกเกียกกาย มีการปิดเพื่อตั้งด่านตำรวจ
  3. แยกเกียกกาย เอารถเมล์แอร์สีเหลือง ปิดทาง แล้ววางรั้วกั้น โดยเจาะพื้นถนนเพื่อยึดแผงรั้ว
  4. ท่าเรือเกียกกาย มีการนำรถเมล์ไปปิดเส้นทางไว้
  5. หน้ารัฐสภา มีรถตู้ตำรวจจอดรายทางประมาณ 20-30 คัน พร้อมตั้งเต็นเป็นจุดๆ

เมื่อคืนที่ผ่านมา – ตั้งแนวรั้ว / แบริเออร์ / รถเมล์

เมื่อคืนที่ที่ผ่านมา จะมีการเตรียมพร้อมรับมือกับการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ โดยได้มีการเคลื่อนย้ายกำลังพล – จนท. เข้าพื้นที่โดยรอบรัฐสภา เกียกกาย มีการจัดตั้งแต่รั้วเหล็ก / แผงเหล็ก / แบริเออร์ รวมถึงการนำรถเมล์ปรับอากาศสีเหลือง มาจอดปิดเส้นทางไว้

พร้อมทั้งมีการนำรถสุขามาจอดเตรียมไว้ด้านตรงข้ามรัฐสภา

◾️ ความเคลื่อนไหวเมื่อวานนี้

นครบาล

ทางด้านของตำรวจนครบาล โดยพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมรับมือของม็อบที่จะเกิดขึ้น โดยให้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เตรียมพร้อมดูแลสถานการณ์ไว้ ผลัดละ 9 กองร้อย ส่วนเส้นทางน้ำ ได้มีการประสานกรมเจ้าท่า ให้ดูแลการสัญจรทางน้ำ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

พร้อมทั้งแจ้งปิดการจราจรบริเวณโดยรอบ และแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง

  • ถนนสามเสน (แยกบางกระบือ – แยกเกียกกาย)
  • ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 (แยกเกียกกาย – แยกบางโพ)
  • ถนนทหาร (แยกเกียกาย – แยกสะพานแดง)

นอกจากนี้ ยังคงได้กำหนดเงื่อนไข สำหรับการชุมนุมของทั้งสองกลุ่ม คือ

  • ห้ามใช้ข้อความหมิ่นประมาท ยุยง ปลุกระดม
  • ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปเส้นทางอื่น
  • ห้ามใช้เคลื่องเสียงดังเกินกว่าที่กำหนด
  • ให้ชุมนุมโดยสงบ
  • ห้ามกีดขวางการเข้าออกของรัฐสภา

กลุ่มไทยภักดี

นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี ได้ระบุว่า ในวันนี้ จะมีการไปรวมกลุ่มกันในเวลาประมาณ 09.00 น. บริเวณรัฐสภา เกียกกาย เพื่อยื่นหนังสือเรียกคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงและทางกลุ่มจะเดินทางกลับ

คณะราษฎร

มีการนัดการชุมนุมกันในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ก่อนจะมีการปักหลักพักค้างคืนกันในบริเวณโดยรอบ เพื่อรอฟังการลงมติของส.ส. / ส.ว. โดยต้องการให้มีการแก้ไข รัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอของทางไอลอว์


ภาพ – วิชาญ โพธิ, ธนโชติ ธนวิกรานต์, กฤติกร จิตติอร่ามกูล