เปิดไทม์ไลน์กำหนดการสำคัญและเงื่อนไขต่างๆ ก่อนจะได้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่ ในวันที่ 24 พ.ค. นี้ หลังรัฐพิธีเปิดประชุมสมัยประชุมสามัญ ประจำปี 2562 ที่ กระทรวงการต่างประเทศ เสร็จสิ้น โดยในช่วงเย็นวันเดียวกัน ยังมีกำหนดการประชุมวุฒิสภา หรือ ส.ว. 250 คน ที่ห้องประชุมใหญ่ บริษัททีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อเลือกประธานและรองประธาน โดยผู้ที่จะทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาชั่วคราว คือ ร้อยเอกทินพันธุ์ นาคะตะ
จากนั้นวันรุ่งขึ้น 25 พฤษภาคม จะเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. 498 คน เพื่อเลือกประธานและรองประธาน ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว คือ นายชัย ชิดชอบ ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุด
แต่กำหนดวันและสถานที่การประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภาและรองประธานฯจะพิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง ซึ่งเลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร ได้เตรียมข้อเสนอแนวทางไว้แล้วหลักเกณฑ์การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมาย ต้องเป็นการประชุมรัฐสภา คือ ส.ส.และ ส.ว.และจะต้องลงคะแนนโดยเปิดเผย ซึ่งคะแนนที่จะได้รับความเห็นชอบ จะต้องไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง นั่นคือ 375 เสียงขึ้นไป
สำหรับผู้เหมาะสมที่จะได้รับการเสนอชื่อ เพื่อลงมติเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นชื่อในบัญชีของพรรคการเมืองที่แจ้งไว้กับ กกต.ในการสมัครลงรับเลือกตั้ง และต้องเป็นพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 หรือ 25 คน และหลังการเสนอชื่อ ต้องมีสมาชิกยกมือรับรองไม่น้อยกว่า 20 คน
ตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ จะมี 5 พรรคการเมือง ที่เสนอชื่อผู้เหมาะสมได้ ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ คือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา / พรรคเพื่อไทย คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายชัยเกษม นิติศิริ / พรรคอนาคตใหม่ คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ / พรรคภูมิใจไทย คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และพรรคประชาธิปัตย์ คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ