ประเด็นน่าสนใจ
- ผลการเลือกตั้ง ปธน.อินโด นายโจโกวี เป็นฝ่ายชนะไปด้วยคะแนน 85 ล้านเสียง
- กลุ่มผู้สนับสนุนนายพลปราโบโว ไม่พอใจผลการเลือกตั้ง รวมตัวกันออกมาชุมนุมประท้วง
- สถานการณ์ยังตึงเครียด ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย บาดเจ็บราว 200 คน
หลังจากกกต.ของอินโดนีเซียได้ประกาศ ผลการเลือกตั้ง โดยนายโจโค วิโดโด ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ได้เป็นประธานาธิปดีต่ออีกสมัย ด้วยคะแนน 85 ล้านเสียง หรือคิดเป็น 55.5% จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 192 ล้านคน ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจเกิดขึ้น โดยอ้างว่า มีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น
กระแส “โกงการเลือกตั้ง” โหมกระหน่ำ
ทางด้านนายพลปราโบโว ก็เคยออกมากล่าวถึงการเลือกตั้งในครั้งนี้ว่า มีการโกงการเลือกตั้งอย่างมโหฬาร ซึ่งทางด้านตัวแทนของนายปราโบโว ก็ได้ปฏิเสธยอมรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ พร้อมกับกล่าวว่า พวกเขานั้นยะไม่ยอมรับความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น จากการกระทำที่ขัดต่อประชาธิปไตย จะดำเนินการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งหลังจากกระแสวิพากวิจารณ์มากขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวลือต่างๆ ทำให้เกิดการรวมตัวประท้วงกันเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่มีการประกาศผลการเลือกตั้งเมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา สถานการณ์การประท้วงได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น
สถานการณ์เริ่มบานปลาย ผู้ชุมนุมประทะเจ้าหน้าที่
ได้มีการประทะกันของกลุ่มผู้สนับสนุนนายพลปราโบโว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีการขว้างปาสิ่งของ เผาทำลายรถยนต์ และทรัพย์สินของกลุ่มผู้ประท้วง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยมีการยิงแก็สน้ำตาสลายการชุมนุม
ทางด้านของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงก็ได้มีการขว้างปาก้อนหิน สิ่งของ รวมไปถึงระเบิดขวด (Molotov cocktail) เข้าใส่เจ้าหน้าที่อีกด้วย โดยยอดล่าสุดมีรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย ราว 200 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย
ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่า มีการใช้กระสุนจริง ยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตถึง 6 ราย แต่ทางการอินโดฯ ปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการใช้กระสุนจริงแต่อย่างใด
จากการประท้วงต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงในขณะนี้ พื้นที่ภายในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซียยังเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย และเข้าควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการจราจลจากกลุ่มผู้ประท้วง
โดยสถานการณ์ล่าสุด ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ เนื่องจากยังคงมีกระแสข่าวต่างๆ เกิดขึ้นผ่านทางช่องทางออนไลน์ต่างๆ ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงเริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ตอนนี้ มีรายงานว่า จำนวนของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในเหตุการณ์นี้ สูงถึง 3 หมื่นคนแล้ว