ประเด็นน่าสนใจ
- พายุโคนี อ่อนกำลังลงจากไต้ฝุ่น (พายุระดับ 4) ลงเป็น พายุโซนร้อน (พายุระดับ 3) แล้ว
- อุตุฯไทย ออกประกาศฉบับที่ 1 พายุโคนี โดยคาดว่า ช่วง 4-5 พ.ย. ที่พายุพัดขึ้นเวียดนาม จะทำให้ประเทศไทยตอนฝนมีฝนเพิ่มขึ้น-ลมแรง
- ฟิลิปปินส์เร่งฟื้นฟู เตรียมรับมือพายุลูกใหม่ “อัสนี” ที่คาดว่าเข้าทางตอนเหนือฟิลิปปินส์สุดสัปดาห์นี้
สถานการณ์พายุโซร้อนโคนี ซึ่งอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่องหลังจากเคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์เมื่อคืนที่ผ่านมา เข้าสู่ทะเลจีนใต้ในช่วงเช้าวันนี้
อุตุฯ ไทย ออกประกาศ ฉบับที่ 1 พายุโคนี
กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานว่า พายุโซนร้อน “โคนี” บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ได้เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 14.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 119.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คาดว่าจะอ่อนกำลังลงก่อนเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 4-5 พฤศจิกายน 2563 ส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ฟิลิปปินส์เร่งฟื้นฟู ช่วยเหลือผู้ประสบภัย / พร้อมรับมือพายุลูกใหม่
ในหลายพื้นที่ของฟิลิปปินส์ สถานการณ์ในขณะนี้ ประชาชนเริ่มทยอยออกจากศูนย์อพยพ และเดินทางกลับบ้านแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการอพยพประชาชนหลายแสนคนให้มาอยู่ในสถานที่ปลอดภัยที่รัฐบาลจัดไว้ให้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่ปรับปรุงเป็นศูนย์อพยพชั่วคราว เพื่อรับมือกับพายุโคนี ที่ถือว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดลูกหนึ่งในปีนี้
ทางการฟิลิปปินส์ได้มีการแจกถุงยังชีพ ให้กับประชาชนเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น และจัดส่งเจ้าหน้าที่ระดมให้ความช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุ “อัสนี” ซึ่งลูกใหม่ ที่ในขณะนี้อยู่นอกชายฝั่งฟิลิปปินส์ และคาดว่า พัดขึ้นฝั่งประเทศฟิลิปปินส์ บริเวณเกาะลูซอน ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้น บ้านเรือนประชาชนจำนวนมากได้รับความเสียหายจากรกระแสลมที่พัดแรง และน้ำท่วม ที่เกิดขึ้นจากพายุโคนี ซึ่งก่อนหน้านี้หลายจุดได้รับผลกระทบจากพายุโมลาเบ ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ก่อนหน้านี้ไม่นาน โดยทางการฟิลิปปินส์รายงานเบื้องต้นว่า มีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากบ้านเรือนเสียหายราว 1 ล้านคน และหลายพื้นที่ยังคงมีไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากเสาไฟฟ้าหักโค่น
ในขณะที่มีราว 300 หลังคาเรือนที่ได้รับความเสียหายจากดินถล่ม ซึ่งเกิดขึ้นใน 4 จุดด้วยกัน ยอดผู้เสียชีวิตในขณะนี้อยู่ที่ 9 ราย และสูญหาย 1 ราย
รมต.เกษตรของฟิลิปปินส์ระบุว่า พายุโคนี ได้สร้างความเสียหายให้กับพืชทั้งข้าวและข้าวโพด รวมกันกว่า 1 ล้านตัน
ชาวเน็ตฟิลิปปินส์ ตามหาปธน. ผ่าน #NasaanAngPangulo
ในช่วง 2-3 วันนี้ ท่ามกลางสถานการณ์พายุซุปเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี ชาวเน็ตของฟิลิปปินส์หลายคนสังเกตเห็นว่า ประธานาธิบดี ดูเตอร์เต ไม่ได้ปรากฏตัวออกสื่อฯ ในการประชุมหรือแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์พายุที่เกิดขึ้นเลย ตั้งช่วงราว 27 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความสงสัยว่า ปธน.ของฟิลิปปินส์หายตัวไปไหน หลายฝ่ายก็ตั้งขอสังเกตไปต่างนานา จนโฆษกฯ ต้องออกมาแถลงว่า ปธน.ติดตามสถานการณ์พายุฯ ยังอยู่ในบ้านพัก