Topshop แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นจากอังกฤษ เตรียมปิดสาขาทั้งหมด 11 แห่งในสหรัฐอเมริกา หลังจาก Arcadia Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ยื่นล้มละลายต่อศาลสหรัฐฯ โดยแจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งหมด 53 ล้านดอลลาร์ ขณะที่มีหนี้สิน 179 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ยังไม่มีการแจ้งกำหนดในการปิดสาขา แต่คาดว่าการขายทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ทั้ง Topshop และ Topman จะยังคงจำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ และช่องทางขายส่งที่เป็นพาร์ทเนอร์อย่างห้าง Nordstrom
Topshop เปิดสาขาแรกในสหรัฐฯ เมื่อปี 2009 แต่ไปได้ไม่สวยเท่าที่คิด เพราะจนถึงปัจจุบันมีเพียง 11 สาขาทั่วทั้งสหรัฐฯ ในเมืองอย่าง นิวยอร์ก แอลเอ ไมอามี่ และชิคาโก้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยอดขายของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังลดลง ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นจากร้านค้าออนไลน์ รวมทั้งพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค โดยตัวเลขรายได้ล่าสุดในรอบ 12 เดือนจนถึง 26 สิงหาคม 2017 ลดลง 5.6% อยู่ที่ 2.4 พันล้านดอลลาร์
Ian Grabiner ซีอีโอของ Arcadia กล่าวว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่ก็จำเป็นต่อธุรกิจ ซึ่งบริษัทกำลังพยายามทำทุกวิถีทางที่จะกลับสู่การมีเสถียรภาพทางการเงิน รวมทั้งการเตรียมปิดสาขาอีก 23 แห่งในอังกฤษและไอร์แลนด์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่งนั้น Arcadia Group ก็ต้องเผชิญกับการถูกบอยคอตสินค้าในเครือ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมส่วนตัวของ เซอร์ ฟิลิป กรีน (Philip Green) นักธุรกิจมหาเศรษฐีเจ้าของ Arcadia Group ซึ่งถูกกล่าวหาในเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศและการเหยียดสีผิว
ที่มา: Business Insider, CNN, Fox Business