กอร.ฉ. สั่งปิดสื่อ

กอร.ฉ. ยันยังไม่ได้มีการสั่งปิดสื่อ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่าทาง กอร.ฉ. สั่งปิดสื่อและโซเชียลมีเดีย ทางตำรวจแถลงยืนยัน กอร.ฉ.ไม่มีนโยบาย/คำสั่ง ที่จะจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อ และยังไม่มีการสั่งปิดสื่อ

Home / NEWS / กอร.ฉ. ยันยังไม่ได้มีการสั่งปิดสื่อ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ประเด็นน่าสนใจ

  • ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่าทาง กอร.ฉ. สั่งปิดสื่อและโซเชียลมีเดีย
  • ทางตำรวจแถลงยืนยัน กอร.ฉ.ไม่มีนโยบาย/คำสั่ง ที่จะจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อ และยังไม่มีการสั่งปิดสื่อ
  • ชี้อยู่ระหว่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ โดยเป็นเพียงการจัดการข้อมูลข่าวสาร ที่มีปัญหาเป็นชิ้นๆ หรือ ช่วงเวลาไป

วันนี้ (19 ต.ค.63) พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงในนามกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) กรณีมีคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ 4/2563 เรื่อง ให้ตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการที่มีลักษณะตามข้อ 2 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า กอร.ฉ.ไม่มีนโยบาย/คำสั่ง ที่จะจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อ และยังไม่มีการสั่งปิดสื่อ

โดยเป็นเพียงการจัดการข้อมูลข่าวสาร ที่มีปัญหาเป็นชิ้นๆ หรือ ช่วงเวลาไป เป็นข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความสับสน ก่อให้เกิดสถานการณ์รุนแรง ดังนั้น เพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ จึงจำเป็นต้องออกมาในลักษณะนี้ก่อน

ส่วนเหตุผลที่ออกประกาศฉบับที่ 4 ดังกล่าว เนื่องจากได้รับแจ้งจากหน่วยข่าวว่ามีการนำเสนอข้อมูลที่อาจจะเกิดความสับสน ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความไม่สงบได้ จึงออกประกาศออกมา

อย่างไรก็ตาม การประกาศออกมาเป็นประกาศที่จะต้องให้หน่วยงาน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ไปพิจารณาในเรื่องของข้อมูลข่าวสารที่ได้รับมา หรือมีอยู่ว่าทำผิดฎหมายหรือไม่

หากผิดกฎหมายให้หน่วยงานนั้นๆ ไปดำเนินการพิจารณาตามการบังคับใช้กฎหมายในสภาวะปกติ คือ ถ้าต้องการถอดข้อความออกเป็นบางช่วง หรือ ระงับการออกอากาศต้องไปขออำนาจศาล จึงขอแจ้งให้ทราบ เนื่องจากกาประกาศฉบับนี้ออกมา ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้บังคับใช้ เนื่องจากจำเป็นต้องมีการกำหนดขั้นตอน หลักเกณฑ์ วิธีการปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกันต่อไป

นอกจากนี้ ได้มีคำสั่งหัวหน้าผู้รับชอบที่ 13 /2563 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการสื่อ และข้อมูลข่าวสารในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดยมีปลัดดีอีเอส เป็นประธาน

คณะกรรมการฯ ดังกล่าวมีหน้าที่บริหารจัดการเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารที่ปรากฎทางสื่อมวลชน เอกสาร หรือข้อมูลข่าวสารอื่นใดทางสื่ออิเล็กทรอนิคส์ สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือได้รับจากประชาชน หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม อันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และให้รวบรวมไว้เป็นระบบ ให้มีประสิทธิภาพ

อีกทั้งสืบสวน ตรวจสอบ พิสูจน์ทราบ ติดตามความเคลื่อนไหวของการสื่อสาร ข้อมูลข่าวสาร หรือบุคคล ที่ได้มีการเผยแพร่ รวมทั้งส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการใช้บังคับใช้กฎหมาย หรือเพื่อระงับการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

นอกจากนี้ มีหน้าที่กำหนดมาตรการเชิงรุกในการบังคับใช้กฎหมาย หรือก่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

เบื้องต้นหากเป็นข้อมูลข่าวสารที่กระทบความมั่นคง ผิดกฎหมาย กรณีเป็นบุคคล จะเรียกมาตักเตือน ถ้าเป็นความผิดตามกฎหมาย จะให้หน่วยงานที่พบนั้น ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ, หากเป็นเฟคนิวส์ หรือใช้มาตรการทางการปกครองได้ จะให้หน่วยงานนั้น ๆ ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่