ประเด็นน่าสนใจ
- ยืนยันการพบเคสผู้ติดเชื้อชาวเมียนมา ซึ่งเป็นพนง. ขับรถขนส่งสินค้าข้ามายังฝั่งไทย
- ทั้งหมดได้เข้ารักษาตัวที่ รพ.เมียวดี ของเมียนมาแล้ว
- การตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดในขณะนี้ ยังคงไม่พบการระบาด หรือผู้ติดเชื้อเพิ่ม
- สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ และสิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดเกิดขึ้น
วันนี้ (11 ต.ค. ) 13.00 น. กรมควบคุมโรคได้มีการแถลงข่าว กรณีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ อ.แม่สอด จ. ตาก ซึ่งเป็นพนักงานขับรถชาวเมียนมา โดยหลังจากที่พบว่า สถานการณ์ในเมียนมามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ ใน จ.เมียวดี ซึ่งอยู่ติดกับ อ.แม่สอด จ.ตากของไทย
ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงได้มีกรแนวทางและมาตรการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ให้มีการตรวจคัดกรอง/ค้นหาเชิงรุกมาโดยตลอด ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินการหลังจากเริ่มมีการเปิดด่านแม่สอด โดยตั้งแต่มีการตรวจคัดกรองเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา พบพบผู้ติดเชื้อเป็น พนง. ขับรถบรรทุก 3 ราย โดย
- 8 ต.ค. ที่ผ่านมา ตรวจคัดกรองคนขับรถชาวเมียนมา บรรทุกสินค้าทั้งหมด 55 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ
- 9 ต.ค. ตรวคัดกรองจำนวน 60 ราย มีตรวจพบติดเชื้อ 2 ราย
- 10 ต.ค. ตรวจคัดกรองจำนวน 74 ราย ตรวจพบติดเชื้อ 1 ราย
รายละเอียดเคสทั้ง 3 รายนั้น
- รายแรก เข้าไทย 2 ครั้ง ไปโกดังอาลี แยกขายปลาตลาดพาเจริญ และโกดังสิงห์ รุ่งเรือง โดยเข้ามาในรอบเช้า 10.00 น. และรอบบ่าย 15.00 น.
- รายที่ 2 เข้าไทย 1 ครั้ง ไปโกดังสิงห์รุ่งเรื่องแห่งเดียว รอบเช้า 10.00 น. ก่อนกลับออกไป เวลา 16.00 น.
- รายที่ 3 เพิ่งพบ พนง. ขับรถชาวเมียนมา
จาก 3 เคส มีการตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดในฝั่งไทยแล้ว 74 ราย ส่วนฝั่งเมียนมานั้นมีผู้สัมผัสใกล้ชิด 100 ราย ทางเมียนมาให้กักตัวแล้ว ซึ่งโดยช่วงเวลาที่ผ่านมา หลังจากมีการเปิดด่านก็ได้มีมาตรรับมืออยู่แล้วทั้งตรวจคัดกรอง สนับสนุนเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในพท.แล้ว และหลังจากที่พบเคส ก็ได้มีทีมลงไปติดตาม ตรวจสอบภายใน 24 ชม. หลังพบ ก็ถือว่า ในการปฏิบัติงานสามารถดำเนินงานได้ตามที่วางแผนไว้
ส่วนแนวชายแดนอื่น ๆ มีทีมเฝ้าระวัง เช่น อสม. ในแต่ละหมู่บ้านตามแนวชายแดน, สนับสนุนเวชภัณฑ์ เพื่อเตรียมความพร้อมไว้แล้ว จึงขอให้มั่นใจ เพราะประเมินไว้แล้วเช่นกัน สิ่งหนึ่งที่เป็นภารกิจในขณะนี้คือ การที่จะต้องพยายามสร้างสมดุลระหว่างควบคุมโรค กับการเดินหน้าเศรษฐกิจไปด้วยกัน ณ ตอนนี้
จึงฝากประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงอย่าลืม สวมหน้ากากอนามัย ป้องกันตัว รักษาระยะห่าง อีกทั้งในช่วงนี้ มีเทศกาลงานกฐิน และจะมีลอยกระทงอีก ขออยากฝากย้ำเตือนให้ประชาชนให้ทุกคนอย่าลืมป้องกัน ซึ่งความร่วมมือจากภาคประชาชนนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น อยากจะฝากย้ำเรื่องของการรับข่าวสาร จากกรณีที่เกิดขึ้นที่แม่สอด ทำให้หลายคนตื่นตระหนก ดังนั้นจึงขอฝากเรื่องการติดตามข่าวสารที่ถูกต้อง ไม่ตื่นตระหนก ย้ำ ในขณะนี้ ยังคงควบคุมได้ และทาง สธ. ก็เร่งค้นหาเชิงรุกเพื่อเก็บเคสให้ครบ
ย้ำ 3 โอกาสที่เคยชี้แจงไปแล้วว่า โอกาสมี 3 แบบคือ
- Spike คือมีการพบเคสขึ้นมาบ้าง ลักษระเช่นเดียวกับที่แม่สอดในขณะนี้ คือมีการพบเคส แต่ยังไม่พบการระบาด
- Spike + Small wave คือ มีพบเคส ร่วมกับมีระบาดในกลุ่มเล็ก ๆ
- Spike + Big Wave = พบเคส และระบาดรุนแรง
ดังนั้นในขณะนี้ คือ คาดหมายไว้แล้วว่า การพบผู้ป่วยโควิด-19 นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และสิ่งสำคัญคือ ต้องคุมให้ได้
เป็นไปได้ยากมาก ๆ ทีไทยจะไม่พบเคส ไม่เกิดเคส สิ่งสำคัญคือการควบคุมไม่ให้มีการระบาด และในส่วนที่จะช่วยได้เป็นอย่างดีคือ ความร่วมมือที่ช่วยกันป้องกัน
- ปชช. ป้องกันตัวเองเหมือนที่เคยผ่านกันมา
- ไม่ช่วยเหลือ/พา ชาวต่างชาติเข้าประเทศ อย่างไม่ถูกต้อง
ดังนั้น จึงอยากให้ ปชช. เข้าใจและอย่าตื่นตระหนก กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเกิดขึ้นได้ และป้องกันตนเองได้
ส่วนทางด้านของกรมควบคุมโรค ก็ยังคงปฏิบัติงานเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยในขณะนี้มี อสม. ช่วยกันเป็นหูเป็นตา รวมถึงมี เป็น อสต. หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว เข้าทำหน้าที่ประสานงาน ให้ความรู้ เป็นหูเป็นตาให้กับเราด้วย
มีการส่งรถตรวจหาเชื้อพระราชทานลงไปเพิ่ม 3 คัน โดยจะไปเตรียมตรวจค้นหาเชิงรุกที่ โกดังอาลี 1 คัน, โกดังสิงห์รุ่งเรือง 1 คัน ส่วนอีก 1 คันนั้นจะรอคำสั่งทางจังหวัดในการลงพื้นที่ต่อไป ซึ่งในขณะนี้ ตรวจคัดกรองเพิ่มไปหลายราย จึงฝากถึงผู้ที่อยู่ในพื้นที่และมีความกังวลใจ หรือไม่สบายใจ สามารถไปตรวจได้ที่ รพ.ใกล้บ้าน, รถตรวจหาเชื้อพระราชทานได้
