สงคราม อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน

[ล่าสุด 4 ต.ค.] – สมรภูมิอาร์เมเนีย – อาเซอร์ไบจาน เดือดต่อเนื่อง

อาร์เมเนีย ปะทะเดือด อาเซอร์ไบจาน เหนือดินแดน นากอร์โน - คาราบัคห์

Home / NEWS / [ล่าสุด 4 ต.ค.] – สมรภูมิอาร์เมเนีย – อาเซอร์ไบจาน เดือดต่อเนื่อง

ประเด็นน่าสนใจ

  • [4 ต.ค.] อาเซอร์ไบจาน ระบุว่า ในขณะนี้สามารถบุกยึดพื้นที่เพิ่มเติมจากอาร์เมเนียได้แล้ว ทางด้านปธน. อาเซอร์ไบจาน ระบุ ถอนกำลังออกไป แล้วสงครามจะจบ
  • [3 ต.ค.] การสู้รบยังคงดุเดือดมากขึ้นเรื่อย ๆ อาร์เมเนียประกาศกร้าวจะบุกเข้าโจมตีในวงกว้างมากขึ้น ในขณะที่อาเซอร์ไบจานใช้โดรนบินข้ามแนวรบเข้าโจมตีจุดสำคัญ ๆ ได้หลายจุด
  • สถานการณ์การสู้รบในนากอร์โน-คาราบัคห์ ยังคงดุเดือด ทั้งสองฝ่ายยังคงเสริมกำลังทหารและอาวุธเข้าในพื้นที่สู้รบกันอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วัน อาทิตย์ที่ผ่านมา
  • อาร์เมเนีย และอาเซอร์ไบจาน เปิดฉากสู้รบกันในนากอร์โน-คาราบัคห์ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทของทั้งสองประเทศมาเป็นระยะเวลานาน
  • ในสาเหตุของการเปิดฉากต่อสู้ในครั้งนี้ ต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้เปิดฉากยิงก่อน และทางฝั่งอาร์เมเนียประกาศใช้กฎอัยการศึก

สถานการณ์การสู้รบกันในพื้นที่ “นากอร์โน-คาราบัค” ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่าง อาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน เริ่มรุนแรงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากทั้งสองฝ่ายเปิดฉากสู้รบกันด้วยอาวุธหนัก ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


สถานการณ์ล่าสุด

4 ต.ค. 63

สถานการณ์ล่าสุด ในขณะนี้ อาเซอร์ไบจาน เริ่มเข้ายึดพื้นที่ในนากอร์โน-คาราบัคได้เพิ่มมากขึ้น หลังจากเดินหน้าใช้โดรนบินข้ามแนวไปโจมตีพื้นที่สำคัญ ๆ ได้หลายจุด รวมถึงทำลายปืนใหญ่ของอาร์เมเนียได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง

โดย ประธานาธิบดี Ilham Aliyev ของอาเซอร์ไบจาน ระบุว่า กองกำลังของอาเซอร์ไบจานสามารถปลดปล่อยหมู่บ้านหลายแหล่งใน แถบ Terter, Jabrayil และ Fizuli จากกองกำลังอาร์ทซัค ของอาร์เมเนีย ได้แล้ว

ซึ่งในบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่แนวหน้าของการสู้รบ ก่อนหน้านี้อาร์เมเนียสามารถยันไว้

คลิปวิดีโอทหารอาเซอร์ไบจาน นำธงของ Republic of Artsakh และชักธงอาเซอร์ไบจานขึ้นแทน

นอกจากนี้ ปธน. ของอาเซอร์ไบจาน ยังระบุด้วยว่า สงครามจะยุติดลง หากกองกำลังอาร์ทซัค ถอนตัวจากคาราบัคห์

ทางด้านของอาร์เมเนีย ยังคงยืนยันว่า ปักหลักสู้ต่อไป โดยใช้ทุกสรรพกำลังที่มีเพื่อปกป้องพื้นที่ไว้ในได้


3 ต.ค. 63

แนวโน้มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยทั้งสองฝ่ายต่างได้ระดมอาวุธ และกำลังพลเข้าแนวสู้รบกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา อาเซอร์ไบจาน ยังคงใช้โดรนเป็นหลักในการขึ้นบิน ชี้เป้า และโจมตี ซึ่งทำให้กองทัพของอาเซอร์ไบจาน สามารถครองอากาศ ข้ามแนวไปโจมตีใจกลาง คาราบัคได้

ซึ่งทางฝั่งของอาร์เมเนีย ยืนยันว่า อาเซอร์ไบจานได้บุกรุกดินแดนของอาร์เมเนีย และการสู้รบในขณะนี้เป็นการปกป้องดินแดนของอาร์เมเนีย จากอาเซอร์ไบจานและตุรกี โดยในเร็ว ๆ นี้ จะมีการเปิดฉากเข้าโจมตีในหลาย ๆ จุด แทนการเลือกโจมตีเพียงจุดใดจุดหนึ่ง

นาย Nikol Pashinyan นายกฯ ของอาร์เมเนีย กล่าว่า สันติภาพจะเกิดขึ้นและเป็นไปได้ ก็ต่อเมื่ออาเซอร์ไบจาน และตุรกี ถอนทหารออกจากดินแดนของอาร์เมเนียเท่านั้น

ผู้นำของกองกำลัง Artsakh ยืนยันในการต่อสู้ ปกป้องดินแดนอย่างถึงที่สุด เพื่อปกป้องดินแดนของอาร์เมเนีย และอาเซอร์ไบจานเป็นผู้บุกรุก

ผู้นำของ Artsakh ในคาราบัค
https://twitter.com/ArmenianUnified/status/1312345852502040577
คลิปจากทางฝั่งของกองทัพอาร์เมเนีย

ทางด้านของฝั่งอาเซอร์ไบจาน ระบุว่า ยังสามารถบุกเข้าโจมตีที่ตั้งสำคัญ ๆ ของทางอาร์เมเนียได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนยุทโธปกรณ์บางส่วน จากทางตุรกี และมีรายงานล่าสุดว่า กองกำลังบางส่วนจากซีเรียจะเข้าร่วมรบในครั้งนี้ด้วย

ทาง้านของประธานาธิบดีของอาเซอร์ไบจาน กล่าวว่า อาเซอร์ไบจานจะไม่เปิดการเจรจาใด ๆ เพื่อรออีก 30 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาพิพาทเหนือดินแดน นากอร์โน-คาราบัค โดยพื้นที่พิพาทนี้จะต้องถูกแก้ให้ถูกต้องในวันนี้

คลิปจากโดรน ของทางอาร์เซอร์ไบจาน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นักข่าวของสื่อฯ ฝรั่งเศสโดนลูกหลงด้วย ซึ่งในการสู้รบในครั้งนี้ ทางอาเซอร์ไบจานได้มีการสั่งให้สื่อมวลชนออกจากพื้นที่สู้รบก่อน ในขณะที่ทางฝั่งของอาร์เมเนีย เปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวได้ในพื้นที่แนวหน้าของการสู้รบ

นอกจากนี้ ทางฝั่งของอาร์เมเนีย ยังได้โพสต์รูป และอ้างว่า ทางฝั่งของอาเซอร์ไบจาน ทำผิดสนธิสัญญาออตตาวา โดยการใช้คลัสเตอร์บอมบ์ อีกด้วย


ชนวนเหตุ

ในชนวนเหตุในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่า ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ที่เปิดฉากยิงก่อน โดยทางฝ่ายอาร์เมเนีย ได้ระบุว่า ทางฝ่ายของอาเซอร์ไบจานได้มีการทิ้งระเบิดลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของทางฝั่งอาร์เมเนียดูแลอยู่ก่อน จึงทำให้อาร์เมเนียต้องตอบโต้กลับไป

ในขณะที่ทางฝ่ายของอาเซอร์ไบจาน อ้างว่า ทางอาร์เมเนียได้มีการยิงปืนใหญ่ข้ามมาก่อน จึงทำให้ทางอาเซอร์ไบจานต้องตอบโต้กลับไป เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของอาเซอร์ไบจาน ไม่ใช่ดินแดนของอาร์เมเนียแต่อย่างใด


แผนที่การปะทะ เมื่อช่วงวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา

ผลการปะทะกันในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

สถานการณ์ในขณะนี้ ทั้งอาร์เมเนีย และ อาเซอร์ไบจานต่างยังคงเสริมกองกำลังของตนเองเข้าไปยังพื้นที่สู้รบอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีการประทะกันอย่างดุเดือดโดยตลอด

Arayik Harutyunyan ผู้นำในคาราบัคห์ ประกาศจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการรบที่ยืดเยื้อยาวนาน และจะยังคงต่อสู้ต่อไปจนกว่าอาเซอร์ไบจานจะพ่ายแพ้

ทางด้านทางด้านของนายเอ็มมานูเอล มาครอง ได้ต่อสายตรงถึง ปธน. ปูติน ผู้นำของรัสเซีย โดยต้องการให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบและเปิดการเจรจากัน

ทางด้านของผลของการปะทะกันในขณะนี้ ทางฝ่ายอาร์เมเนียระบุว่า มีทหารเสียชีวิตไปกว่า 100 นาย และประชาชนเสียชีวิต 23 พร้อมอ้างว่า ทางฝั่งของอาเซอร์ไบจานนั้น สูญเสียทหารไปอย่างน้อย 130 นาย และบาดเจ็บกว่า 200 นาย

https://twitter.com/Zinvor/status/1311400048010330119
คลิปจากทางฝ่ายอาร์เมเนีย ที่อ้างว่าสามารถทำลาย-ยึดรถถังของอาเซอร์ไบจานได้

ในขณะเดียวกัน ทางฝ่ายอาเซอร์ไบจาน อ้างว่า สามารถสังหารทหารของฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่า 2000 นาย รถถัง 130 คัน ปืนใหญ่ 200 กระบอก รวมถึงยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ อีกหลายชนิด

ปธน. Arayik Harutyunyan โพสต์รูปภาพความเสียหายใน นากอร์โน – คาราบัคห์ ที่ระบุว่า ถูกอาเซอร์ไบจานโจมตี

ทางด้านของอาเซอร์ไบจาน ได้มีการออกมาตอบโต้ข้อมูลดังกล่าว โดยกล่าวว่า กองกำลังของอาร์เมเนีย ได้มีการยิงปืนใหญ่ข้ามเข้ามายังพื้นที่ของประชาชนใน Naftalan จนทำให้มีผู้เสียชีวิต

ซึ่งเป็นสาเหตุให้ทางอาเซอร์ไบจานต้องตอบโต้กลับไป พร้อมกันนี้ ยังได้โพสต์ภาพความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน และภาพขณะที่กองทัพของอาเซอร์ไบจานใช้โดรนถล่มรถถังของทางอาร์เมเนีย เพื่อยืนยันด้วย

https://twitter.com/LAbdullayevaMFA/status/1310671743632146432

ทางด้านของประธานาธิบดี Ilham Aliyev ได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยยืนยันว่า พื้นที่คาราบัคห์ นั้นเป็นพื้นที่ของอาเซอร์ไบจาน และอาเซอร์ไบจานจะชนะในสงครามครั้งนี้

นานาชาติประสานเสียง ขอให้เปิดการเจรจา

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มในการปะทะกันรุนแรงมากขึ้น บรรดาชาติต่าง ๆ จึงมีความกังวลใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าจะมีความรุนแรงและลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ

นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ได้ร้องขอให้ทั้งสองประเทศ ยุติการสู้รบและเปิดการเจรจากันทันที

กลุ่ม OIC ได้ออกมาประนาม อาร์เมเนียต่อการโจมตีอาเซอร์ไบจาน พร้อมให้อาร์เมเนียถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาทอย่างไม่มีเงื่อนไข

ทางด้านตุรกี ก็ออกมาประนาม อาร์เมเนีย ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในการใช้อาวุธหนักโจมตีพื้นที่ที่มีประชาชนของอาร์เซอไบจานอาศัยอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นการผิดข้อตกลงระหว่างประเทศ

ประวัติความขัดแย้งในภูมิภาค นากอร์โน-คาราบัคห์

สาเหตุของความขัดแจ้งในดินแดน นากอร์โน-คาราบัคห์ นั้นพื้นที่ในดินแดนดังกล่าวเป็นดินแดนของอาเซอร์ไบจาน หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในอดีตเมื่อปี 2523

แต่แม้ว่าดินแดนจะเป็นของอาเซอร์ไบจาน ประชากรส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่เป็นชาวอาร์เมเนียน จึงทำให้เมื่อมีการลงประชามติ เลือกเป็นส่วนหนึ่งของอาร์เมเนีย

กลายเป็นปมปัญหาการขัดแจ้งกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเนื่องจากดินแดน เป็นของอาเซอร์ไบจาน แต่การดูแลและพลเมืองเป็นของอาร์เมเนีย

นอกจากนี้ ยังมีปมความขัดแย้งในเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากชาวอาร์เมเนียน นับถือศาสนาคริสต์ ส่วนชาวอาเซอร์ไบจานนั้นเป็นชาวมุสลิม

คลิปเหตุการณ์เพิ่มเติม

คลิปจากโดรนของอาเซอร์ไบจาน ในการโจมตีรถถังของทางฝ่ายอาร์เมเนีย
https://twitter.com/alikeskin_tr/status/1310510324295127040