ประเด็นข่าวรอบวัน – 28 ก.ย.

◾ ‘เพื่อไทย’ เตรียมนัดเลือก กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ วันนี้ (28 ก.ย. 63) พรรคเพื่อไทย จัดประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดให้มีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ ในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จากกรณีที่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์…

Home / NEWS / ประเด็นข่าวรอบวัน – 28 ก.ย.

◾ ‘เพื่อไทย’ เตรียมนัดเลือก กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

วันนี้ (28 ก.ย. 63) พรรคเพื่อไทย จัดประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดให้มีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ ในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จากกรณีที่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการแทนหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วาระการประชุมในวันนี้มีเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง คือ

  • 1.การเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ของพรรค
  • 2.การเตรียมการที่จะให้มีการประชุมใหญ่ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคจะเป็นผู้กำหนดวัน เวลา สถานที่ โดยจะเสนอให้มีการประชุมใหญ่ในวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค. 63 ซึ่งองค์ประชุมจะต้องมีไม่ต่ำกว่า 250 คน ประกอบด้วย กรรมการบริหาร ส.ส. ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด หัวหน้าสาขา และสมาชิกพรรค

◾ คกก.วัตถุอันตรายไม่ทบทวนแบน “พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส”

วันนี้ (28 ก.ย.63) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ครั้งที่ 3-2/2563 ว่า ที่ประชุมพิจารณาวาระสำคัญเรื่อง ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย

ซึ่งเป็นการออกประกาศเพื่อกำหนดให้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งห้ามมิให้มีการผลิต นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ครอบครองตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมานั้น การประชุมครั้งนี้มีข้อเสนอจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งขยายเวลาการบังคับใช้ออกไปและคงมติเดิมของคณะกรรมการวัตถุอันตราย คือ ไม่มีการขยายเวลา ที่ประชุมจึงต้องมีการลงมติโดยเปิดเผย

ทั้งนี้ กรรมการที่อยู่ในห้องประชุม 24 คน มีผู้เห็นด้วยกับการทบทวนมติ 4 คน และไม่เห็นด้วย 20 คน ที่ประชุมจึงมีมติโดยเสียงส่วนใหญ่ว่าไม่สมควรที่จะออกประกาศยกเลิกการใช้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส เนื่องจากประกาศเพิ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา และมีการฟ้องคดีอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครอง จึงมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงสาธารณสุขนำข้อมูลจากคณะกรรมการไปพิจารณาและรายงานคณะกรรมการต่อไป


◾ สธ.เผยตั้งวอร์รูมเฝ้าระวังโควิด-19 ชายแดนไทย-เมียนมา

วันนี้ (28ก.ย.63) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) หรือ ศบค. ว่า ที่ประชุมศบค. ได้เตรียมพร้อม รับมือสถานการณ์โควิด-19 ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาร์ เพราะจากสถิติที่เราได้พบ ประเทศเมียนมาร์มีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้มากกว่า 10,000 คนแล้ว

และแต่ละวันเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 คน/วัน และยังพบว่าบางช่วงเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน 1 เดือนที่ผ่านมา ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 1,000 เป็น 2,000 และเป็น 4,000 เป็น 8,000 จนกระทั่งเป็น 10,000 คน ซึ่งเราได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


◾ นายกฯ สั่งดูแลม็อบ 14 ต.ค. ขอทำตามกม. หวั่น 2 ม็อบปะทะ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมประกาศให้ประชาชน ข้าราชการ พนักงาน ประกาศหยุดงานวันที่ 14 ตุลาคมและจะมีการนัดชุมนุมใหญ่จะมีแนวทางดูแลอย่างไร ว่า ก็ดูแลเหมือนเดิม

ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะยอมให้มีพื้นที่ในการชุมนุมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะยอมไม่ยอม กฎหมายคือกฎหมาย ห้ามไม่ให้ชุมนุมก็ฝ่าฝืน บังคับใช้กฎหมายก็หาว่ากดดัน ตนจึงขอให้คนทั้งประเทศช่วยกันพิจารณาให้ท่องแท้ว่าวัตถุประสงค์ของการชุมนุมคืออะไร แล้วจะช่วยกันได้อย่างไร

ถ้าเอาภาระโยนมาให้เจ้าหน้าที่กับรัฐบาลทั้งหมดแล้วถ้าตนสั่งให้ทำเต็มที่ไปเลยจะเกิดอะไรขึ้นไหม จึงต้องไปดูว่าคนที่ไม่เคารพกฎหมายอะไรเลย ถ้าวันหน้าคนเหล่านี้ดำเนินการได้สำเร็จจะบริหารประเทศอย่างไรความขัดแย้งก็สูงขึ้นเรื่อยๆ


◾ ‘เพื่อไทย’ ปรับโลโก้พรรคใหม่ ใช้ตัวอักษรแบบมีหัว

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 63 พรรคเพื่อไทยได้ประชุม รักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดให้มีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ประกาศขอลาออกจากประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค

ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติให้ปรับโลโก้พรรคเพื่อไทยใหม่ โดยใช้พื้นฐานตัวอักษรชื่อ อู่ทอง ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวอักษรที่ใช้ตั้งแต่เริ่มต้นพรรค ซึ่งเป็นตัวอักษรที่มีหัว และโค้งมนมากขึ้น


◾ สถานการณ์โควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22 ราย

สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย (28 ก.ย.63) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22 ราย (ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,522 ราย) โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศ ปากีสถาน 1 ราย ซูดานใต้ 16 ราย ฟิลิปปินส์ 1 ราย และอินเดีย 4 ราย และเข้า State Quarantine ปัจจุบันไทยอยู่อันดับที่ 137 ของโลก


◾️ศบค. แถลงต่ออายุ พ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน

วันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในวันนี้ว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 22 ราย โดยกลุ่มเป็นกลุ่มทหารช่าง ที่กลับจากภารกิจในซูดานใต้ ซึ่งเป็นภารกิจเพื่อมนุษยธรรมของยูเอ็น (ภารกิจต่อเนื่อง) จำนวน 16 ราย

ซึ่งในแถลงวันนี้ มีเรื่องสำคัญ 2 เรื่องคือ แนวทางการการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวแบบวีซ่าระยะสั้น (60 วัน) กลุ่มผู้อาศัยระยะยาว หรือ Long Stay รวมถึงกลุ่มนักกีฬา เพิ่มเติม เนื่องจากจะมีการจัดการแข่งขันจักรยานทางไกล และการแข่งขันแบดมินตัน ระดับโลก ที่ประเทศไทยด้วย เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

และอีกเรื่องหนึ่งคือ การต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ ออกไปอีก 1 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 31 ต.ค เพื่อการควบคุมและป้องกันโรค


◾️ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น

เช้าวันนี้ สมาคมผู้ค้าทองคำได้ประกาศราคาซื้อขายทองคำเช้าวันนี้ โดยเมื่อเวลา 09.20 ได้มีการปรับราคาขึ้น 50 บาท ก่อนที่จะมีการปรับราคาขึ้นไปอีก 50 บาท เมื่อเวลา 10.48 น. ที่ผ่านมา ทำให้ราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่

  • ทองคำแท่ง
    รับซื้อ บาทละ 27,850.00 บ. / ขายออก บาทละ 27,950.00 บ.
  • ทองรูปพรรณ
    รับซื้อ บาทละ 27,348.64 บ. / ขายออก บาทละ 28,450.00 บ.

◾️ศาลฯ สหรัฐฯ สั่งระงับคำสั่งแบน Tiktok ของทรัมป์

ผู้พิพากษา สหรัฐฯ มีคำสั่งให้ระงับคำสั่งแบน Tiktok ของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนหน้านี้ ที่สั่งให้แบน แอพฯ Tiktok หลังจากที่บริษัทได้ยื่นคำร้องต่อศาลกลางของสหรัฐฯ ว่า คำสั่งของทรัมป์ ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการละเมิดกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งทำให้ Tiktok ยังคงสามารถให้บริการได้อยู่ต่อไป ก่อนหน้าที่คำสั่งของทรัมป์จะมีผลบังคับอย่างเฉียดฉิว


◾️รมช. ศึกษาฯ เตรียมหาทางออก กรณีโรงเรียนสารสน์วิเทศราชพฤกษ์

ในวันนี้ ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ และคณะผู้ปกครอง นักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี จากกรณีเหตุการครูของโรงเรียนทำร้ายนักเรียน ซึ่งมีผลการสอบสวนพบมีกรณีเพิ่มเติม เพื่อหาทางออกและทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับทางกลุ่มผู้ปกครอง โดยเร็วที่สุด


◾️จับตาประชุมพรรคเพื่อไทย วันนี้

ในวันนี้ จะมีการประชุมวิสามัญของพรรคเพื่อไทย โดยมีรายละเอียดใน 2 ประเด็นด้วยกันคือ ในการหารือการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

และในอีกประเด็นหนึ่ง นั่นคือการหารือเรื่องของการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยใหม่


◾️อานนท์ ขึ้นเวทีขอนแก่น ประกาศ กลางเดือนนี้ชุมนุมใหญ่ต่อเนื่อง

ทนายอานนท์ นำภา แกนนำการชุมนุมฯ ได้ขึ้นเวทีที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อวานนี้ โดยได้ขึ้นกล่างปราศรัย พร้อมระบุว่า ตนเองนั้นคาดว่า 24 ก.ย. ที่ผ่านมา สภาฯ จะมีมติรับร่างแก้ไข รธน. จากที่มีการเสนอเข้าไปพิจารณากันถึง 6 ร่าง แต่กลับกลายเป็นว่า ไม่รับเลยสักร่างเดียว ดังนั้นในการชุมนุมที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือน ต.ค. นั้น จึงจะเป็นการชุมนุมขนาดใหญ่แบบต่อเนื่อง เพื่อกดดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

โดยทนายอานนท์ ได้ย้ำว่า ในการชุมนุมที่กำลังจะเกิดขึ้น ถือเป็นจุดสำคัญของการเคลื่อนไหว ซึ่งหากไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้นในการชุมนุมกลางเดือนหน้า จำนวนคนที่มาเข้าร่วมจึงถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง


◾️ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

  • เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0 – 1 ลีดส์ ยูไนเต็ด
  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 – 5 เลสเตอร์ ซิตี้
  • ทอตแนม ฮ็อทสเปอร์ 1 – 1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
  • เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4 – 0 วูล์ฟแฮมป์ตัน

◾️อาร์เมเนีย-อาเซอร์ไบจาน ยังระอุ มีเสริมกำลัง พร้อมเปิดการปะทะ

สถานการณ์ในข้อพิพาทกันระหว่าง อาร์เมเนีย กับ อาเซอร์ไบจานยังคงร้อนระอุ หลังมีการปะทะกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้กองทัพของอาเซอร์ไบจานต้องสูญเสียรถถัง และเฮลิคอปเตอร์ไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางกองทัพอาร์เมเนียอ้างว่า สามารถทำลาย UAV 27 ลำ, เฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ รถถังและยานพาหนะ 33 คัน ของกองทัพอาเซอร์ไบจานได้

ทำให้ทั้งสองฝ่ายยังคงเสริมกำลังตามแนวชายแดนระหว่างกันตั้งแต่เมื่อบ่ายวานนี้ (ตามเวลาประเทศไทย)

นอกจากนี้ สื่อของอิหร่าน ยังได้รายงานด้วยว่า มีจรวดลูกหนึ่ง ตกลงใกล้กับ หมู่บ้าน Khalafbeglu พื้นที่ของประเทศอิหร่าน


◾️ทั่วไทยมีฝนเพิ่ม เตือนมีฝนตกหนัก-หนักมาก ในหลายพื้นที่

วันนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์สภาพอากาศ โดยระบุว่า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในหลายพื้นที่ เนื่องจาก 3 ปัจจัยด้วยกันคือ

  • ร่องมรสุมพาดผ่าน แนวภาคเหนือ-กลาง-อีสานตอนล่าง
  • หย่อมความกดอากาศต่ำในแนวร่องมรสุม คลุมภาคกลางตอนล่าง-อีสานตอนล่าง
  • มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังปานกลาง

ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

| อ่านต่อ – พยากรณ์อากาศรายภาค >>>

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง