ฟิลิปปินส์สั่งปราบกลุ่มก่อการร้ายหลังเหตุระเบิดโบสถ์

ฟิลิปปินส์ประกาศปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย หลังเกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนทางตอนใต้ เพียง 6 วันการลงประชามติตั้งเขตปกครองตนเองชาวมุสลิม

นายซัลวาดอร์ พาเนโล โฆษกของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ออกมาประณาม และประกาศปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อน บริเวณโบสถ์คริสต์บนเกาะโจโล ในจังหวัดซูลู ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวานนี้ จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บอีกราว 111 คน

เขากล่าวว่า ศัตรูของประเทศได้เพิ่มความท้าทายถึงความสามารถของรัฐบาลในการรับประกันความปลอดภัยให้พลเมืองในภูมิภาคดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่กองทัพก็จะรับมือเรื่องนี้มากขึ้นและจะบดขยี้ผู้ที่ก่ออาชญากรรมอันโหดร้ายนี้

เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ แต่ตำรวจระบุว่า กลุ่มอาบูไซยาฟเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในเหตุระเบิดครั้งนี้ ซึ่งอาบูไซยาฟเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ภักดีต่อกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ IS รวมทั้งมักก่อเหตุระเบิดและการโจมตีที่โหดร้ายในพื้นที่นี้

โดยเหตุระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นภายในโบสถ์ขณะผู้คนประกอบพิธีมิสซา จากนั้นก็เกิดระเบิดครั้งที่ 2 บริเวณด้านนอก ซึ่งผู้ก่อเหตุจุดชนวนระเบิดในขณะเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยเร่งเข้าไปยังที่เกิดเหตุระเบิดครั้งแรก

การโจมตีล่าสุดนับเป็นหนึ่งในครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 2-3 ปี บนพื้นที่ที่เกิดความไม่สงบและไร้เสถียรภาพมาเป็นเวลานาน 

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 6 วัน หลังประชาชนโหวตลงประชามติ “เห็นด้วย” กับการตั้งเขตปกครองตนเอง “บังซาโมโร” บนเกาะมินดาเนา ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม

การลงประชามติตั้งเขตปกครองตนเองบังซาโมโร มีประชาชนเห็นด้วยร้อยละ 85 ขณะที่จังหวัดซูลูเป็นหนึ่งในไม่กี่พื้นที่ที่ปฏิเสธการจัดตั้งเขตปกครองตนเอง แต่จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของเขตปกครองตนเองใหม่ ซึ่งจะเกิดขึ้นในปี 2565