บล.โกลเบล็ก ระบุหุ้นไทยจับตาหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่ สามารถจัดตั้งรัฐบาล แม้ปัจจัยบวกราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากซัพพลายที่ลดลง และ MSCI ได้มีการปรับเกณฑ์ในการทำ NVDR เข้าคำนวณน้ำหนักตลาดหุ้นไทยที่เป็นตลาด Emerging Market ทำให้น้ำหนัก ลงทุนเพิ่มเป็น 3% เป็น 2.5% มีผลเดือนพฤษคม ให้กรอบดัชนี 1,640 – 1,665 จุด แนะนำลงทุนหุ้นท่องเที่ยว และหุ้นเข้าคำนวณ MSCI ส่วนราคาทองคำผันผวนต่อเนื่อง เพราะใกล้วันหยุดยาว ให้กรอบการเคลื่อนไหว 1,280-1,310 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยก่อนหยุดยาวมองว่าได้อานิสงส์จากการการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน จากซัพพลายลดลง เนื่องจากการลดกำลังผลิตของกลุ่ม OPEC และสถานการณ์การสู้รบในลิเบีย รวมทั้งการที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบปี 2562 ส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มดี โดนสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) ระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตในเอเชียในเดือน มีนาคม ดีดตัวขึ้น หลังลดลงติดต่อกัน 6 เดือน โดยได้แรงหนุนจากดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนที่ปรับขึ้นจากยอดสั่งซื้อและการผลิตที่ขยายตัวขึ้น และรายงานว่าเศรษฐกิจทั่วโลกไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากธนาคารกลางประเทศใหญ่หลายแห่งชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้ง MSCI ได้มีการปรับเกณฑ์ในการทำ NVDR เข้าคำนวณน้ำหนักตลาดหุ้นไทยที่เป็นตลาด Emerging Market ทำให้น้ำหนักลงทุนเพิ่มเป็น 3% เป็น 2.5% มีผลเดือนพฤษคมที่จะถึงนี้
ส่วนปัจจัยลบที่ส่งผลต่อการลงทุนนั้น มองว่าการชะลอการลงทุน เนื่องจากใกล้ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเบาบาง ประกอบกับปัจจัยการเมืองยังไม่ชัดเจน ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ หลายคนไม่เข้าใจสูตรคำนวณ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ
นอกจากนี้แนะนำติดตามปัจจัยที่ต้องจับตา โดยในวันที่ 11 เม.ย. จีน เปิดเผย อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) เดือนมี.ค. และยอดขายรถเดือนมี.ค. สหรัฐฯ เปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) เดือนมี.ค. วันที่ 12 – 19 เม.ย. หุ้นกลุ่มธนาคารรายงานงบการเงินงวดไตรมาส 1/2562 และ วันที่ 12 เม.ย. จีน เปิดเผยยอดนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนมี.ค. สหรัฐ เปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. ส่วนวันที่ 15 เม.ย. สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนเม.ย.จากเฟดนิวยอร์ก
ด้านนายสรรพกัณฑ์ ปัมทบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในกรอบแคบเนื่องจากใกล้ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ คาดดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,640 – 1,665 จุด จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ชู AOT, CENTEL, ERW ซึ่งได้ประโยชน์จาก Free Visa on Arrival ที่อาจขยายระยะเวลาเพิ่มเติม หุ้นเข้าใหม่คำนวณในดัชนี MSCI-EM ชู CENTEL, RATCH, INTUCH, DTAC หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุน ชู SCC, EGCO, CPN, LH, TU, BANPU, BH, BBL, BDMS และ KBANK และหุ้นที่ผลสำรวจของสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) แนะนำ ได้แก่ AOT, BBL, CPALL, SCC และ STEC
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำสวิงบีบแคบลง เรื่อย ๆ ล่าสุดมองกรอบระหว่าง 1,280-1,310 ดอลลาร์ ซึ่งมีโอกาสจะ breakout ได้ทุกเมื่อ นักลงทุนที่มีสถานะถือครองทองคำหรือสัญญาล่วงหน้าควรระมัดระวังและจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคาดการณ์ระยะเวลามีแนวโน้มที่ความผันผวนจะสูงขึ้นในช่วงสงกรานต์หรือหลังจากนั้นเล็กน้อย ส่วนทิศทางค่าเงินบาทที่แกว่งแคบลงระหว่าง 31.8-32.0 บาทต่อดอลลาร์ ยังคงมองว่าจะอยู่ในกรอบดังกล่าวต่อไป และคาดว่าจะไม่มีผลต่อราคาทองคำในประเทศ