‘เพนกวิน’ ไม่สน!! หมุดถูกรื้อ ถือว่าให้สัมภเวสี

ประเด็นน่าสนใจ

วันนี้ (21 ก.ย.63) นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่ น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมาสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลเเขวงดุสิต ตามหมายนัด ของพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ที่ส่งสำนวนมายังสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลเเขวงดุสิต

กรณีจัดการชุมนุมปราศรัยหน้ากองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม เพื่อรายงานตัวตามข้อกล่าวหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาด้วยเครื่องขยายเสียง

ซึ่งภายหลังมารับทราบช้อกล่าวหา สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวงศาล 3 (ดุสิต) ก็ไม่ได้สั่งฟ้องใดๆ กับนายพริษฐ์ และบุคคลทั้งหมด โดยหลังจากนี้จะเดินทางไปรับข้อกล่าวหาที่ สน.ชนะสงคราม ต่อไปในช่วงบ่ายวันนี้

นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ก็ได้กล่าวถึงหมุดที่ถูกถอนออกไปเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า ไม่เป็นไร ถอดออกได้ก็ปักใหม่ได้ ซึ่งไม่เหนือความคาดหมาย เพราะรู้อยู่เเล้วว่าหมุดต้องถูกถอดออก หมุดที่ออกไปถือว่าทำบุญทำทานให้กับสัมภเวสี” ขอให้คนที่เอาหมุดออกไป รวมถึงคนที่สั่งให้เอาหมุดออก มีอันเป็นไปตามคำสาปเเช่ง ให้เสื่อมทุกอย่าง เพราะคำสาปนี้ถือเป็นคำสาปของมหาชน โดยวันนี้จะเเจกไฟล์ภาพหมุด เพื่อให้คนที่ต้องการ นำไปหล่อเเละนำไปปักที่อื่นๆทั่วประเทศ ไม่ใช่เเค่ที่สนามหลวง

ทั้งนี้ไม่ห่วงกรณีที่ตำรวจ เเละหลายคนหลายกลุ่ม เตรียมที่จะฟ้องเอาผิดกลุ่มเเนวร่วมธรรมศาสตร์เเละการชุมนุม โดยเฉพาะกรมศิลปากร ที่จะเเจ้งข้อหาบุกรุกโบราณสถาน เพราะไม่ได้มองว่าเป็นการทำลายโบราณสถาน เนื่องจากมองว่าไม่ได้เป็นการทำลายโบราณสถาน เพราะสนามเป็นสถานที่ที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ อีกทั้งพื้นปูนดังกล่าวที่มีการเจาะ ไม่ได้เป็นโบราณวัตถุ เพราะเพิ่งสร้างได้เพียง 3 ปีเท่านั้น

ส่วนกรณีที่มีคนจะไปเเจ้งหามาตรา 112 นั้น เพนกวินได้ท้าให้ไปเเจ้งมาตราดังกล่าวได้เลย ไม่กลัว ทั้งนี้ยังยืนยันข้อเรียกร้องในหนังสือที่ยื่นไป มี 3 ข้อ รวมถึงการปฏิรูปสถาบันด้วย เเต่ข้อที่มีความคาดหวังมากที่สุด คือนายกรัฐมนตรีลาออก พร้อมทั้งเอาบริวารทั้งหมดออกไปด้วย นอกจากนี้ยังยืนยันเหตุผลที่เปลี่ยนเป้าหมายยกเลิกการเคลื่อนมวลชนไปทำเนียบรัฐบาล เเต่ไปพระบรมมหาราชวัง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามหลวง เพราะมวลชนน้อยเเละยุทธศาสตร์ไม่ชัดเจนนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งไม่ได้มองว่าคนมากหรือน้อย