ประเด็นน่าสนใจ
- เมื่อ 06.00 น.พายุโซนร้อน โนอึล กลายเป็น พายุดีเปรสชั่นแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณจ.ขอนแก่น
- คาดว่าจะกลายเป็นกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบิรเวณ จ.สุโขทัยในวันนี้
- แต่ยังคงทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีลมแรง
- ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่
เมนูลัด : ประกาศกรมอุตุฯ ล่าสุด พื้นที่ได้รับผลกระทบ ประเด็นอื่น ๆ
อัปเดต ล่าสุด :
19 ก.ย. 18.30 –
พายุดีเปรสชั่น โนอึล ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณจังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. แต่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทย จึงยังส่งผลให้บิรเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาพตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และฝนตกหนักบางแห่ง
19 ก.ย. 12.30 –
- ศูนย์กลางพายุ อยู่ อ.เขาค้อ เพชรบูรณ์ ซึ่งพายุดีเปรสชั่นโนอึลเคลื่อนตัวช้ามาก แทบไม่เคลื่อนที่
- คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็น หย่อมความกดอากาศต่ำ ในระยะต่อไป
- แต่ยังคงมีผลทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนัก-หนักมาก
19 ก.ย. 10.00 –
พายุดีเปรสชั่นโนอึล ขณะนี้ศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยพายุยังคงเคลื่อนตัวช้ามาก และคาดว่าจะเคลื่อนไปทาง จ.พิษณุโลก สุโขทัย ลำปาง
19 ก.ย. 06.00 –
- พายุโซนร้อน โนอึล กลายเป็น พายุดีเปรสชั่นแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณจ.ขอนแก่น
- คาดว่าจะกลายเป็นกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบิรเวณ จ.สุโขทัยในวันนี้
- แต่ยังคงทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีลมแรง
- ปริมาณน้ำฝนที่เกิดขึ้นจากพายุโนอึล กระจายเป็นบริเวณกว้าง พื้นที่บริเวณอีสานล่างจึงได้รับน้ำฝนมาก 90+ มม. ในรอบ 24 ชม.
- ทำให้ระดับความเสียหาย-ผลกระทบ ก็จะกระจายเฉลี่ยกันไปในหลายพื้นที่ ในหลายจังหวัด ตามแนวพายุผ่าน
18 ก.ย. –
กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับล่าสุด ระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. พายุโนอึล เคลื่อนปกคลุมจ.อำนาจเจริญแล้ว เคลื่อนตัวไปทางตะวันตกอย่างช้า ๆ และจะกลายเป็นดีเปรสชั่นในระยะต่อไป
ประกาศกรมอุตุฯ ล่าสุด – 19 ก.ย. 17.00 น.
เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ (19 ก.ย. 2563) พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) “โนอึล” ที่ปกคลุมบริเวณอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) บริเวณจังหวัดพิษณุโลกแล้ว ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของประเทศไทยและด้านรับลมมรสุมของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
◾️ 19 กันยายน 2563 – บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก
- ภาคเหนือ:
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
. - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:
จังหวัดชัยภูมิ และนครราชสีมา
. - ภาคกลาง :
จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี
. - ภาคตะวันออก:
จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
. - ภาคใต้:
จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต
◾️ 20 กันยายน 2563 – บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก
- ภาคเหนือ:
งหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกำแพงเพชร
. - ภาคกลาง:
จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี และชัยนาท
. - ภาคตะวันออก:
จังหวัดจันทบุรี และตราด
. - ภาคใต้:
จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง
คลื่นลมในทะเล
หรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดย
- อ่าวไทยตอนบน และทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
- อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ขอให้ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวัง และควรงดการเดินเรือจนถึงวันที่ 20 กันยายน 2563
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพายุโนอึล
◾️อุตุฯ แถลงเตรียมรับมือ พายุ “โนอึล”
กรมอุตุฯ ตั้งวอร์รูมทั้งส่วนกลาง/ภูมิภาค รับมือพายุโนอึล ซึ่งในขณะนี้เป็นพายุระดับ 3 และคาดว่า ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นระดับ 4 และ 5 (ไต้ฝุ่น) ในช่วง 18-20 ก.ย. นี้ ได้มีการประสานกับทาง ปภ. ไว้เตรียมรับมือแล้ว
ผลกระทบที่คาดการณ์ไว้ เริ่มต้นที่ภาคอีสาน, ภาคเหนือ, ภาคกลางตอนบน รวมถึงภาคตะวันออก การเฝ้าระวังต้องเริ่มต้นตั้งแต่พรุ่งนี้ เพราะขอบพายุจะเข้ามาแตะประเทศไทย และเริ่มส่งผลกระทบต่อทางพื้นที่ในภาคอีสาน กรมอุตุฯ จะอัปเดตทุก ๆ 3 ชม. และเมื่อพายุรุนแรงขึ้นก็จะเป็นทุก ชม.
ในแนวทางของเส้นทางพายุ มีแนวคาดการณ์ 2 แนวด้วยกัน
- แนวที่ 1 คือ จะเข้าทางนครพนม สกลนคร หนองบัวลำภู เลย แล้วขึ้นไปทางเหนือ แถวอุตรดิตถ์ กำแพงเพชร แพร่ ลำปาง ผ่านไปทางเมียนมา
- แนวที่ 2 จะลงต่ำลงมา แถวอำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ โคราช เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะเส้นทางที่ 1 หรือ 2 ก็มีผลกระทบเช่นกัน ต่างกันตรงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นกับจังหวัดที่พายุผ่าน หรือกระทบตรง ๆ ซึ่งตัวพายุค่อนข้างกว้าง ดังนั้นหลายจังหวัดจึงมีโอกาสเจอฝนตกหนักได้เช่นกัน
ในจุดสำคัญคือ พายุจะมาขึ้นและผลกระทบจะเริ่มในช่วงกลางคืน โดยเฉพาะคืนวันที่ 17 ถึง เช้า 18 ก.ย. ที่จะกระทบกับภาคอีสาน ดังนั้น จึงอยากให้ ปชช. ในภาคอีสานเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก-หนักมาก และลมพัดแรงไว้ด้วย เพราะพายุมาช่วงดึก
ซึ่งในระยะแรก คาดว่าจะมีผลกระทบคือ เรื่องของอุทกภัย แต่ในมุมหนึ่ง ปริมาณน้ำฝนที่จะเกิดขึ้นนั้น เชื่อว่า โดยภาพรวมจะช่วยเติมน้ำในเขื่อน ลดปัญหาภัยแล้งให้กับไทยได้