อย. ร่วมกับกรมควบคุมโรค และศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ปลดล็อคให้ประชาชนเข้าถึงชุดตรวจที่เกี่ยวข้องกับการตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชุดตรวจที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเอชไอวี(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชุดตรวจที่เกี่ยวข้องกับการตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง พ.ศ.2562 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 9 เมษายน 2562 ซึ่งสาระสำคัญของการแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข คือ มีการกำหนดนิยามสำคัญที่เกี่ยวข้องกำหนดคุณภาพมาตรฐานและข้อกำหนด ซึ่งต้องผลิตโดยผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองระบบคุณภาพการผลิตตามมาตรฐานระดับประเทศหรือมาตรฐานระหว่างประเทศ
รวมถึงกำหนดให้แสดงฉลากต่อผู้บริโภคในประเด็นที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ข้อบ่งใช้ วิธีการใช้ วิธีการเก็บรักษา คำเตือน ข้อควรระวัง องค์ความรู้เกี่ยวกับระยะการตรวจหาการติดเชื้อไม่พบของชุดตรวจนั้น ๆ แบบประเมินความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง ช่องทางการให้ข้อมูลสนับสนุนของผู้ผลิต หรือผู้นำเข้าในการใช้ชุดตรวจดังกล่าวผ่าน QR Code หรือเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลและความรู้ สาธิตวิธีการตรวจ การสรุปผล การเชื่อมเข้าสู่ระบบบริการ หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อให้คำปรึกษาเพิ่มเติมโดยตรงได้และการแปลผล โดยแสดงเป็นภาพอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจน และมีข้อความว่า “ใช้ตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยตนเองเท่านั้น หากตรวจพบมีปฏิกิริยา (reactive) ต้องได้รับการตรวจยืนยันการวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวีจากหน่วยบริการที่สามารถตรวจยืนยันวินิจฉัยได้”
นอกจากนี้ ยังให้ผู้รับใบอนุญาตผลิต หรือนำเข้าจัดให้มีเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลที่ผู้ถูกตรวจควรรู้ ก่อนการตรวจ และภายหลังทราบผลการตรวจ โดยอยู่ในภาชนะบรรจุ เพื่อให้กระบวนการให้ค าปรึกษามีความชัดเจน ตลอดจนการเชื่อมเข้าสู่ระบบบริการตรวจวินิจฉัย ยืนยัน รักษาและป้องกัน โดยอาจทำในลักษณะขั้นตอนหรือกระบวนการที่ชัดเจน
ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องผ่านการตรวจสอบจาก อย. โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศฯ กำหนดเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า การยุติปัญหาเอดส์ โดยปลดล็อคให้ประชาชนการเข้าถึงการตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง เป็นการเพิ่มทางเลือกในการตรวจคัดกรองแทนที่ต้องไปตรวจ ณ สถานพยาบาลเท่านั้น ทำให้ประชาชนทราบถึงสถานะการติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ระยะเริ่มแรก มีโอกาสป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีไปยังบุคคลอื่น แต่ในผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี การตรวจเพื่อรู้สถานการณ์การติดเชื้อเร็วจะทำให้เริ่มรักษาได้ทันท่วงที ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นต่อไป
การทดสอบเชื้อเอชไอวีด้วยตัวเองในต่างประเทศ
ในบางประเทศประชาชนสามารถทดสอบเอชไอวีได้ที่บ้าน ยกตัวอย่างเช่นในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ประชาชนสามารถทดสอบเชื้อเอชไอวีได้ง่ายและสะดวกด้วยตัวเองที่บ้าน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและเป็นความลับ โดยไม่ต้องไปที่คลินิกหรือพบแพทย์ทั่วไป
โดยผู้ที่อาศัยในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีอายุ 16 ปี สามารถสั่งซื้อชุดทดสอบที่ชื่อว่า ‘ดีบีเอสเอชไอวี’ จากทางออนไลน์ ซึ่งทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับ หลังจากนั้นผู้ทดสอบจะต้องส่งตัวอย่างเลือดกลับทางไปรษณีย์โดยไม่ต้องจ่ายค่าจัดส่ง จากนั้นผู้ทดสอบจะได้รับผลการตรวจภายใน 1 สัปดาห์ ผ่านทางอีเมล, ข้อความทางโทรศัพท์