แม่สุดช้ำ เด็กชาย-หญิง 4 คนโดนข่มขืนมาราธอน ซ้ำถูกขู่ฆ่า มีรถตู้มาตามหาถึงในหมู่บ้าน
วันที่ 24 เม.ย. ที่ ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร นางหญิง (นามสมมติ) อายุ 52 ปี พร้อมด้วย ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ ด.ญ.ซี (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ และ ด.ญ.ดี (นามมมติ) อายุ 6 ขวบ รวมถึง นายดำ (นามสมมติ) อายุ 62 ปี เปิดถึงเหตุการณ์ น่ารันทดใจเมื่อลูกสาว,หลานชาย
และหลานสาวอีก 2 คน รวม 4 คน ถูกชายโฉดในหมู่บ้านข่มขืนมาราธอน ไปแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดี แต่ผู้ต้องหาได้ประกันตัวออกมาเที่ยวข่มขู่ฆ่าคนในครอบครัว จ้างนักเลงหัวไม้ใช้รถตู้เอารูปเด็กๆ ให้ชาวบ้านดู เพื่อถามเส้นทางเข้าบ้าน จึงได้ร้องเรียนสื่อมวลชน
นางหญิง เล่าว่า ครอบครัวย้ายมาจาก จ.สกลนคร เมื่อปี 50 มีลูกชายและลูกสาว อายุ 2 ขวบ มารับจ้างกรีดยางพาราใน อ.สวี จนได้รู้จักกับ นายสุรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เจ้าของสวนยางพารา ที่ดูเป็นคนดีใจบุญ ชอบช่วยเหลือครอบครัว ให้ความรักความเอ็นดูลูกสาวของตนเสมอ จนต่อมาได้ชักชวนให้มาสร้างบ้านอยู่ในสวนยางพารา ในพื้นที่ ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นของนายสุรินทร์
ตนและสามีได้เก็บเงินจนสร้างบ้านเสร็จ ส่วนนายสุรินทร์ มักจะมาพา ด.ญ.เอ ลูกสาวตนไปอุ้มเล่นเป็นประจำ กระทั่งลูกสาวตนโตเป็นสาวก็ถูกเมียของ นายสุรินทร์ ว่าด่าอย่างรุนแรงว่าส่งลูกสาวให้ไปเป็นเมียนายสุรินทร์ เมื่อสอบถามลูกสาวก็ไม่ยอมพูดอะไร จนถูกเมียของนายสุรินทร์ อาละวาดหนักขึ้น จนเวลาผ่านไปหลายปี
กระทั่งวันหนึ่งเมื่อปี 55 เมื่อลูกสาวอายุได้ 14 ปี ได้ชี้หน้าต่อว่า นายสุรินทร์ ว่าได้สร้างตราบาปให้ ทำเอาตนและสามีล้มป่วยด้วยความตกใจ ซึ่งสามีถึงกับเป็นอัมพฤกษ์ จากนั้น นายสุรินทร์ ได้มาขอเคลียร์ ด้วยเงิน 2 หมื่นบาท ก็จำยอมต้องรับเพราะ เป็นคนต่างถิ่นมาอาศัยแผ่นดินเค้าอยู่ และคอยระวังไม่ให้นายสุรินทร์มารังแก ด.ญ.เอ
จากนั้นเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ตนสังเกตเห็น ด.ช.บี ลูกของตนเดินผิดปกติ จึงคาดคั้นจนได้ความจริงว่าถูกนายสุรินทร์ ล่วงละเมิดทางทวารหนัก และยังมี ด.ญ.ซี และ ด.ญ.ดี ก็ถูก นายสุรินทร์ ล่วงละเมิดทางเพศด้วย ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้ง จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้ง หลังจากนั้นตำรวจก็ได้ส่งตัวไปตรวจที่ รพ.หลังสวน ก็พบว่า ด.ญ.เอ มีอาการติดเชื้อ ตกขาวในช่องคลอด และปวดท้องอย่างรุนแรง
ส่วน ด.ช.บี มีร่องรอยทั้งคราบวาสลินและครีมในช่องทวารหนัก สำหรับหลานสาวอีก 2 คน คือ ด.ญ.ซี และ ด.ญ.ดี มีร่องรอยที่อวัยเพศ จึงตัดสินใจย้ายบ้านพักมาอาศัยที่ดินของผู้นำท้องถิ่น ให้บ้านอยู่ด้วยความสงสาร ในขณะที่ตำรวจได้จับกุม นายสุรินทร์ไปดำเนินคดี แต่ได้รับการประกันตัวออกมา
หลังจากนั้นคนในครอบครัวก็ถูกขู่ฆ่าจากญาติของนายสุรินทร์ ตลอด ทั้งส่งคลิปเสียง ที่หนักที่สุดเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาได้ มีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ขับรถตู้เข้ามาในหมู่บ้าน นำภาพถ่ายของเด็กๆ ทั้งหมดมาสอบถามร้านค้าในหมู่บ้านถึง 2 ร้าน ว่ารู้จักเด็กเหล่านี้ไหม
ด้วยความหวาดกลัวและเป็นครอบครัวที่ยากจนไม่รู้จะสู้รบตบมืออย่างไร จึงได้หันหน้ามาพึ่งสื่อมวลชน เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดกับครอบครัวของใครอีก ด้าน ด.ญ.เอ เล่าว่า ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ จนถึง 7 ขวบ จะถูกนายสุรินทร์ นำไปล่วงละเมิดทางเพศตลอด จนกระทั่งเริ่มเป็นสาวจึงพยายามหนีห่าง แต่ก็ไม่วายถูกลวนลามคุกคามตลอดเวลา
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลป์ชัย ผบก.ภ.จว.ชุมพร เมื่อทราบเรื่อง พล.ต.ต.สหรัฐ ก็ได้รีบเดินทางไปยัง สภ.ปากน้ำหลังสวน พร้อมทั้งขอดูสำนวนคดี และสั่งการให้ตำรวจเจ้าของคดีนำสำนวนไปพบที่ บก.ภ.จว.ชุมพร ในวันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.) เพื่อดำเนินคดีอย่างหนักแก่ นายสุรินทร์
และจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่น เพื่อให้ศาลลงโทษ นายสุรินทร์ ให้เต็มที่ ส่วนการข่มขู่ผู้เสียหายจะได้ให้ ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ขณะที่ พล.ต.ต.สหรัฐ กล่าวว่า รู้สึกตกใจมากที่มีเรื่องอย่างนี้ใน จ.ชุมพร นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับเด็กๆ ตนยอมไม่ได้