หนุ่มพิการนั่งวีลแชร์เสียชีวิตปริศนา ใต้สะพานยกระดับ พบใช้ปืน 11 มม.ยิงปลิดชีพตัวเอง 2 นัดซ้อน ตั้งธง 2 ประเด็น ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย
เช้าวันที่ ( 5 มี.ค. 2562 ) ร.ต.อ.เกียรติสกุล ชัยรัตนาเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบศพชายเสียชีวิตปริศนา เหตุเกิดใต้สะพานต่างระดับแยกเชียงขาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพชาย อายุประมาณ 30 – 35 ปี ผมยาว สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ ขาพิการทั้งสองข้าง นั่งเสียชีวิตอยู่บนวีลแชร์ใกล้กับเสาตอหม้อของทางต่างระดับ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับด้านซ้าย และใต้ราวนมทะลุกลางหลัง มีคราบเลือดไหลนองเต็มพื้น ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ปลิดชีพ เป็นปืนยี่ห้อ เอสทีไอ ปี 2011 จุด 45 หรือ ปืน 11 มม.ตกอยูที่พื้น พบปลอดกระสุนตกห่างที่เกิดเหตุประมาณ 5 เมตร และมีร่องรอยกระสุนปืนบริเวณเสาตอหม้อทางต่างระดับจนเป็นรู 1 รอย
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ไม่พบกระเป๋าเงินและบัตรประจำตัว พบเพียงสัมภาระบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋ายี่ห้อ เอเนลโล่ ที่ติดอยู่กับวีลแชร์ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บคราบเขม่าดินปืน ที่บริเวณมือซ้ายของผู้ตายไว้เพื่อนำไปตรวจสอบกับรอยนิ้วมือบนอาวุธปืน
สอบสวนทราบว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (5 มี.ค.2562) มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณดังกล่าวได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้น 2 นัด แต่ไม่มีใครสนใจเนื่องจากเป็นช่วงกลางดึก กระทั่งมีประชาชนที่มาออกกำลังกายบริเวณสวนสาธารณะใต้สะพานต่างระดับมาพบศพ จึงแจ้งตำรวจเพื่อตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสันนิฐานไว้ 2 ประเด็น คือ อาจเป็นการฆาตกรรม เพราะมีการใช้อาวุธปืนยิงถึง 2 นัด ส่วนอีกประเด็น คือ ชายหนุ่มรายนี้อาจเกิดความเครียดจากโรคประจำตัว หรือปัญหาชีวิตอื่น จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ใต้ราวนมตัวเอง 1 นัด จนทะลุกลางหลัง แต่ยังไม่เสียชีวิต จึงใช้ปืนยิงซ้ำเข้าที่ขมับด้านซ้ายอีก 1 นัด โดยคาดว่าผู้ตายจะถนัดซ้าย
ขณะที่การตรวจสอบทรัพย์สินที่ติดตัวผู้ตาย ส่วนใหญ่เป็นของมีราคาแพง เช่น วีลแชร์ กระเป๋าที่ติดกับวีลแชร์ นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ SUUNTO สำหรับนักกีฬา และอาวุธปืนยี่ห้อเอสทีไอ ปี 2011 จุด 45 ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงกระบอกละประมาณ 90,000 ถึง 110,000 บาท
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้กู้ภัยส่งไปชันสูตรที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง รวมทั้งประกาศตามหาญาติของชายหนุ่มรายนี้ เพื่อมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป