สหรัฐฯ ออกคำสั่งให้บริษัทโบอิ้งปรับปรุงเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ อย่างเร่งด่วน หลังเกิดโศกนาฏกรรมกับสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส
สำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐฯ หรือ FAA ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ มีคำสั่งให้บริษัทโบอิ้ง ดำเนินการปรับปรุงระบบป้องกันการสูญเสียการทรงตัว และระบบการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน รุ่น 737 แม็กซ์ อย่างเร่งด่วน โดยกำหนดให้มีความคืบหน้าภายในสิ้นเดือนเมษายน แต่แถลงการณ์ฉบับนี้ไม่ได้สั่งให้ระงับการใช้เครื่องบินรุ่นดังกล่าวในสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ FAA ได้เดินทางถึงเอธิโอเปียแล้ว และกำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น รวมถึงคณะกรรมการความปลอดภัยด้านคมนาคมแห่งสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะสามารถเผยแพร่ข้อมูลความปลอดภัยเกี่ยวกับเครื่องบินได้เร็วๆ นี้
FAA ระบุว่า ทราบถึงรายงานข่าวของสื่อหลายแห่งว่า มีการเชื่อมโยงอุบัติเหตุครั้งนี้เข้ากับอุบัติเหตุของสายการบินไลอ้อน แอร์ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ได้ระบุว่า การสืบสวน “เพิ่งเริ่มต้นขึ้น” และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ที่ทำให้ได้ “ข้อสรุปหรือการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม”
แม้สายการบินหลายแห่งจะระงับใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 แต่บางสายการบินก็ยังไม่ระงับใช้เครื่องบินรุ่นนี้ ซึ่งรวมถึงสายการบินโอมาร์ แอร์, ฟลายดูไบ, เตอร์กิช แอร์ไลน์ส และสายการบิน เอส7 ของรัสเซีย รวมถึงสายการบินของสหรัฐฯ ก็ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อเครื่องบินรุ่นดังกล่าว
ขณะที่บริษัทโบอิ้งก็เตรียมส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปยังเอธิโอเปีย เพื่อร่วมตรวจสอบกรณีเครื่องบินของเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส ตก ซึ่งทีมกู้ภัยได้ค้นพบกล่องดำทั้ง 2 กล่องแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า บรรดาครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เครื่องบินเอธิโอเปียตกอาจต้องรออย่างน้อย 5 วัน กว่าจะรับร่างของผู้ประสบเหตุกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาได้
นายอัสราต เบกาชอว์ โฆษกสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส ระบุว่า กระบวนการระบุอัตลักษณ์ของเหยื่ออาจใช้เวลาอย่างน้อย 5 วัน เนื่องจากความเสียหายที่รุนแรงและไฟไหม้อาจทำให้เหยื่อบางรายต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการพิสูจน์อัตลักษณ์ ขณะเดียวกันก็มีผู้โดยสารจากกว่า 30 ประเทศ และเอธิโอเปียมีความสามารถด้านนิติเวชที่จำกัด