สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019
📍 สถานการณ์ในประเทศไทย
- 🔻 เพิ่ม ผู้ป่วยยืนยันราย 28 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
ผู้ป่วยยืนยัน (รายที่ 2,673 – 2,700)
🔵 เพิ่ม ผู้ป่วยหายกลับบ้าน 96 ราย
⚫️ เพิ่ม ผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย
⚫️ รายที่ 47 ผู้เสียชีวิต หญิงไทย อายุ 85 ปี อาชีพแม่บ้าน โรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
- วันที่ 22 มี.ค. – 2 เม.ย. 2563 มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ กลับมารักษาอีกครั้งนึงที่โรงพยาบาลในชุมพร
- วันที่ 12 เม.ย. 2563 มีอาการไข้ ไอ เหนื่อยหอบ แพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ และได้เอกซเรย์ปอดพบว่าปอดอักเสบรุนแรง ต่อมาได้ตรวจว่าพบเชื้อไวรัสโควิด-19
- วันที่ 15 เม.ย. 2563 มีอาการแย่ลง
- วันที่ 16 เม.ย. 2563 ได้เสียชีวิต
🔸 กลุ่มที่ 1 มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย หรือ สถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ (จำนวน 16 ราย)
▪️ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ จำนวน 16 ราย
🔸 กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ (จำนวน 5 ราย)
▪️ ไปสถานที่ชุมนุมชน จำนวน 1 ราย
▪️ อาชีพเสี่ยง จำนวน 4 ราย
▪️ เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จำนวน 0 ราย
- คนไทย 0 ราย
- ชาวต่างชาติ 0 ราย
▪️ บคลากรทางการแพทย์ จำนวน 0 ราย
▪️ ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ (เข้าสถานที่กักกันโรค State Quarantine) จำนวน 0 ราย
🔸 กลุ่มที่ 3 ได้รับผลแล็บยืนยันว่า “พบเชื้อแล้ว” (จำนวน 7 ราย)
🔹 รวมผู้ป่วยหายกลับบ้าน 1,689 ราย
🔹 รวมผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 964 ราย
🔹 รวมผู้ป่วยเสียชีวิต 47 ราย
🔹 ผู้ป่วยสะสม 2,700 ราย
▪️ 10 อันดับ จังหวัดที่พบผู้ป่วย 2,700 ราย 68 จังหวัด
- กรุงเทพฯ 1,371 ราย
- ภูเก็ต 192 ราย
- นนทบุรี 148 ราย
- สมุทรปราการ 108 ราย
- ยะลา 99 ราย
- ปัตตานี 87 ราย
- ชลบุรี 81 ราย
- สงขลา 56 ราย
- เชียงใหม่ 40 ราย
- ปทุมธานี 33 ราย
- อยู่ระหว่างสอบสวน 68 ราย
▪️ 10 อันดับ (อัตราการป่วยสูงสุด) จังหวัดที่พบผู้ป่วย 2,700 ราย 68 จังหวัด
▪️ จังหวัด : ต่อประชากร 1 แสนคน
- ภูเก็ต : 46.44
- กรุงเทพฯ : 24.17
- ยะลา : 18.53
- ปัตตานี : 12.06
- นนทบุรี : 11.78
- สมุทรปราการ : 8.09
- สตูล (จากอินโดนีเซีย) : 5.58
- ชลบุรี : 5.24
- สงขลา : 3.90
- นราธิวาส : 3.73
▪️ 9 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมากก่อน (ขอชื่นชมจากใจ) 👏❤️
- กำแพงเพชร
- ชัยนาท
- ตราด
- น่าน
- บึงกาฬ
- พิจิตร
- ระนอง
- สิงห์บุรี
- อ่างทอง
▪️ พื่นที่พบผู้ป่วยสะสม
- กรุงเทพฯและนนทบุรี 1,522 ราย
- ภาคกลาง 344 ราย
- ภาคใต้ 558 ราย
- ภาคอีสาน 108 ราย
- เหนือ 95 ราย
▪️ อายุเฉลี่ย
- อายุน้อยสุด 1 เดือน
- อายุมากสุด 97 ปี
- เฉลี่ยอายุ 40 ปี
.
▪️ สูงสุดในกลุ่มอายุ - อายุ 20-29 ปี
- จำนวน 555 ราย
▪️ เพศ
- ชาย 1,413
- หญิง 1,202
📍 27 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วย ในช่วง 14 วัน
(ขอชื่นชม 👏) “ข้อมูล 3-16 เม.ย. 2563”
- เชียงราย
- เพชรบุรี
- เพชรบูรณ์
- แพร่
- แม่ฮ่องสอน
- กาญจนบุรี
- จันทบุรี
- นครนายก
- บุรีรัมย์
- มหาสารคาม
- มุกดาหาร
- ยโสธร
- ร้อยเอ็ด
- ราชบุรี
- ลพบุรี
- ลำพูน
- ศรีสะเกษ
- สมุทรสงคราม
- สระบุรี
- สุโขทัย
- หนองบัวลำภู
- อำนาจเจริญ
- อุดรธานี
- อุตรดิตถ์
- อุทัยธานี
- หนองคาย
- กาฬสินธุ์
📍 อัปเดต! จัดส่งหน้ากากอนามัย ของกระทรวงสาธารณสุข
ข้อมูล ณ วันที่ 17 เม.ย. 2563
- จำนวนรับเข้า 22,493,500 ชิ้น
- ระหว่างจัดส่ง 997,050 ชิ้น
- จัดส่งแล้วทั้งหมด 21,496,450 ชิ้น
📍 WHO ชี้ต้องมี 6 ข้อนี้ “ถ้ายกเลิกการล็อกดาวน์” ช่วงโควิด-19
- สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคภายในประเทศได้แล้ว
- ระบบสุขภาพต้องสามารถ “ตรวจหาผู้มีอาการของโรค ตรวจหาเชื้อ แยกตัวและทำการรักษา พร้อมทั้งทำการสอบสวนโรค”
- มีความเสี่ยงระดับน้อยที่สุดในสถานที่เสี่ยงภัยมากที่สุด เช่น บ้านพักคนชรา
- โรงเรียน สำนักงาน และสถานที่สาธารณะต่างๆ ต้อมมีมาตรการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ
- สามารถจัดการความเสี่ยงของโรคจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้
- คนในชุมชนต้องมีความรู้ มีส่วนร่วมและได้รับการสนับสนุนให้มีชีวิตอยู่ภายใต้สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการเกิดโรค
📍 ตัวอย่างการผ่อนคลายมาตรการกึ่งล็อคดาวน์
เช่น การเปิดร้านตัดผม
▪️ คำแนะนำ “ผู้ประกอบการ”
- ด้านสถานที่ : จัดที่นั่ง ที่นอนสระผม ให้ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร และไม่ให้มีที่นั่งรอในร้าน แต่ใช้บัตรคิวแทน
- ด้านระยะเวลา : ให้บริการที่ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง เช่น สระผม ตัดผม เท่านั้น
- ด้านบริการ : งดเว้นบริการที่ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกันที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า
- พนักงาน : ใส่หน้ากากผ้าทุกคน ล้างมือทุกครั้งที่ให้บริการลูกค้าแต่ละราย ให้พนักงานหยุดงาน เมื่อมีอาการไข้ หรือ อาการทางเดินหายใจ
- การทำความสะอาด : ล้างอุปกรณ์ด้วยน้ำและผงซักฟอกทุกครั้งให้บริการลูกค้าแต่ละราย เช็ดพื้นผิวสัมผัสทุกชั่วโมงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์บริเวณทางเข้าร้าน
▪️ คำแนะนำ “ผู้รับบริการ”
- ใส่หน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในร้านตัดผม
- ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าร้าน
📍 เที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับไทย
“นักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกา”
- วันที่ 17 เม.ย. 2563 จำนวน 132 ราย เวลา 21.45น.
- วันที่ 18 เม.ย. 2563 จำนวน 131 ราย เวลา 21.45น.
- วันที่ 19 เม.ย. 2563 จำนวน 161 ราย เวลา 11.15น.
📍 รายงานการกระทำความผิดแยกตามพื้นที่
ข้อมูล ณ วันที่ 16 เม.ย. 2563 (ฝ่าฝืน พ.ร.ก. 751 คน)
▪️ กรุงเทพฯ : ออกนอกเคหสถาน 37 ราย รวมกลุ่ม มั่วสุม 11 ราย
▪️ ภาคเหนือ : ออกนอกเคหสถาน 71 ราย รวมกลุ่ม มั่วสุม 26 ราย
- อันดับ 1 คือ เชียงใหม่
- ออกนอกเคหสถาน 20 ราย
- รวมกลุ่ม มั่วสุม 7 ราย
▪️ ภาคใต้ : ออกนอกเคหสถาน 78 ราย รวมกลุ่ม มั่วสุม 0 ราย
- อันดับ 1 คือ ภูเก็ต
- ออกนอกเคหสถาน 14 ราย
- รวมกลุ่ม มั่วสุม 0 ราย
▪️ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ออกนอกเคหสถาน 74 ราย รวมกลุ่ม มั่วสุม 28 ราย
- อันดับ 1 คือ นครราชสีมา
- ออกนอกเคหสถาน 13 ราย
- รวมกลุ่ม มั่วสุม 0 ราย
▪️ ภาคกลาง : ออกนอกเคหสถาน 382 ราย รวมกลุ่ม มั่วสุม 44 ราย
- อันดับ 1 คือ ชลบุรี
- ออกนอกเคหสถาน 76 ราย
- รวมกลุ่ม มั่วสุม 0 ราย
📍 10 อันดับ (สูงสุด)
ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน และ ประกาศห้ามรวมกลุ่มชุมนุม มั่วสุม
ข้อมูล ณ วันที่ 17 เม.ย. 2563 เวลา 08.00 น.
- ชลบุรี จำนวน 76
- นนทบุรี จำนวน 61
- ปทุมธานี จำนวน 45
- กรุงเทพฯ จำนวน 37
- สมุทรสาคร จำนวน 25
- สมุทรปราการ จำนวน 25
- สระบุรี จำนวน 20
- เชียงใหม่ จำนวน 20
- ลพบุรี 18
- สงขลา จำนวน 18
📍 10 อันดับ (ต่ำสุด)
ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน และ ประกาศห้ามรวมกลุ่มชุมนุม มั่วสุม
ข้อมูล ณ วันที่ 17 เม.ย. 2563 เวลา 08.00 น.
- มหาสารคาม จำนวน 0
- หนองคาย จำนวน 0
- แม่ฮ่องสอน จำนวน 0
- พิจิตร จำนวน 0
- พังงา จำนวน 0
- ระนอง จำนวน 0
- เพชรบุรี จำนวน 0
- ยโสธร จำนวน 1
- อำนาจเจริญ 1
- ศรีสะเกษ จำนวน 1