ข่าวสดวันนี้ ไวรัสโควิด-19

ประกันสังคม ประกาศให้ผู้ประกันตนตรวจหาเชื้อโควิด-19 ฟรี !

รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานประกันสังคม ได้ประกาศให้ผู้ประกันตน สามารถใช้สิทธิตรวจเชื้อโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรณีเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หากมีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ…

Home / NEWS / ประกันสังคม ประกาศให้ผู้ประกันตนตรวจหาเชื้อโควิด-19 ฟรี !

ประเด็นน่าสนใจ

  • หวังช่วยยับยั้งการระบาดของเชื้อโควิด-19ในประเทศ
  • มาตรการนี้ใช้กับผู้ประกันตนที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง แล้วมีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บหน้าอก

รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานประกันสังคม ได้ประกาศให้ผู้ประกันตน สามารถใช้สิทธิตรวจเชื้อโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยมีรายละเอียดดังนี้

กรณีเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หากมีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ เจ็บหน้าอก ให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคมที่เลือกไว้ แพทย์จะส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ฟรี

ในกรณีที่ติดเชื้อ โควิด-19 จริงๆ ก็จะได้รับการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากไม่สามารถไปโรงพยาบาลตามสิทธิได้ เช่น ขณะนั้นอยู่ต่างจังหวัด หรือต่างพื้นที่ สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ หรือโรงพยาบาลรัฐทุกแห่งตามระบบประกันสังคมได้ก่อนเลย

โดยจะเบิกจ่ายเป็นกรณีฉุกเฉิน 72 ชั่วโมง ซึ่งหากต้องสงสัยว่าติดเชื้อและต้องถูกกักกัน ให้แจ้งโรงพยาบาลตามสิทธิ์เพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่าย

ในกรณีที่ยังไม่มีอาการป่วย ไม่แนะนำให้รีบไปตรวจหาเชื้อ เพราะระยะฟักตัวของโรคอยู่ที่ประมาณ 14 วัน ดังนั้นในช่วงแรกๆ ที่ไปมีโอกาสพบเชื้อน้อยมาก และยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้คนอื่นด้วย

เพราะผลตรวจเป็นลบจะทำให้ไม่ระมัดระวังตัวเอง จนแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ แต่หากกังวลว่าตนเองจะติดเชื้อ และต้องการตรวจ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจเอง โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และโรงพยาบาลราชวิถี ค่าบริการตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท
  • โรงพยาบาลเปาโล ทุกสาขา ค่าบริการตั้งแต่ 5,000-13,000 บาท
  • โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าบริการอยู่ที่ 5,000 บาท
  • โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ค่าบริการอยู่ที่ 5,000 บาท
  • โรงพยาบาลพญาไท 2 ค่าบริการอยู่ที่ 6,500 บาท
  • โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ค่าบริการอยู่ที่ 7.000 บาท
  • โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ค่าบริการอยู่ที่ 9,900 บาท

    ***โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการติดเชื้อซึ่งอาจจะสูงกว่าข้อมูลข้างต้น

กรณีถูกตรวจพบว่าป่วยโควิด-19 และแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัว จะยังได้รับคำจ้าง ดังนี้

  • ค่าจ้างจากนายจ้าง – กรณีเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถใช้สิทธิ์ลาป่วยโดยได้รับค่าจ้างจากนายจ้างไม่เกิน 30 วัน/ปี
  • เงินทดแทนการขาดรายได้จากประกันสังคม – กรณีเจ็บป่วยด้วยโรครื้อรัง ประกันสังคมจะจ่ายเงินทดแทนฯให้ในอัตรา 50% ของค่าจ้าง (คิดจากฐานอัตราเงินเดือนสูงสุดของผู้ประกันตนแต่ละมาตรา) โดยได้รับครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้นเป็นโรคเรื้อรัง จะได้รับเงินทดแทนฯ ไม่เกิน 385 วัน

ผู้ที่มีสิทธิ์รับเงินทดแทนการขาดรายได้ จากประกันสังคม

ผู้ประกันตนมาตรา 33 (ทำงานกับนายจ้าง)

  1. มีสิทธิ์ได้เงินทดแทนฯ เมื่อส่งเงินสมทบภายใน 15 เดือนย้อนหลัง ไม่น้อยกว่า 3 เดือน ไม่ว่าจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม ก่อนวันที่เข้ารับการรักษาพยาบาล โดยแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัวต้องลาป่วยและได้รับเงินจากนายจ้างครบ 30 วันก่อน ส่วนที่ลาป่วยเกิน 30 วัน จึงสามารถยื่นขอรับเงินทดแทนฯ จากประกันสังคมได้
  2. มีหนังสือรับรองจากนายจ้างว่าได้รับค่าจ้างในวันลาป่วยครบ 30 วันทำงานใน 1 ปีปฏิทินตามกฎหมายคุ้มครอง แรงงานแล้วจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้างจริง โดยคิดจากฐานไม่เกิน 15,000 บาท ตามกฎหมายประกันสังคม

    โดยได้รับครั้งละไม่เกิน 9 วันบีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้นเป็นโรคเรื้อรัง จะได้รับไม่เกิน 365 วันผู้ประกันตนมาตรา 38 (ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ลาออกจากงาน แต่ยังอยู่ในสิทธิ์คุ้มครอง 6 เดือน)
  3. มีสิทธิ์ได้รับเงินทดแทนฯ เมื่อส่งเงินสมทบภายใน 15 เดือนย้อนหลัง ไม่น้อยกว่า 3 เดือน และเจ็บป่วยภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน โดยแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัวและต้องมีรายได้จากการประกอบอาชีพ หรือเจ็บป่วยต่อเนื่องจากการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จึงถือว่ามีรายได้จากการทำงานก่อนการเจ็บป่วย
  4. จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้างจริง โดยคิดจากฐานไม่เกิน 15,000 บาท ตามกฎหมายประกันสังคม โดยได้รับครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้นเป็นโรคเรื้อรัง จะได้รับไม่เกิน 365 วัน

ผู้ประกันตนมาตรา 39 (ประกันตนเอง)

มีสิทธิ์รับเงินทดแทนฯ เมื่อส่งเงินสมทบภายใน 15 เดือนย้อนหลัง ไม่นอยกว่า 3 เดือน ไม่ว่าจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม ก่อนวันที่เข้ารับการรักษาพยาบาล โดยแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัว และต้องมีรายได้จากการประกอบอาชีพ

กรณีมีรายได้ หรือมีกิจการเป็นของตนเอง ให้นำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้างจริง โดยคิดจากฐานอัตราการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 39 (4,800 บาท) ตามกฎหมายประกันสังคม

โดยได้รับครั้งละไม่เกิน 9 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้นเป็นโรคเรื้อรังจะได้รับไม่เกิน 365 วัน

กรณีไม่ได้ทำงานกับนายจ้าง หรือไม่มีรายได้ จะไม่สามารถเบิกสิทธิ์เงินทดแทนการขาดรายได้จากประกันสังคมได้

ผู้ประกันตนมาตรา 41 (ลาออกจากมาตรา 39 แต่ยังอยู่ในสิทธิ์คุ้มครอง 6 เดือน)

มีสิทธิ์รับเงินทดแทนเมื่อส่งเงินสมทบภายใน 15 เดือนย้อนหลัง ไม่น้อยกว่า 3 เดือน และเจ็บป่วยภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน โดยแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัวและต้องมีรายได้จากการประกอบอาชีพ

หรือเจ็บป่วยต่อเนื่องจากการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จึงถือว่ามีรายได้จากการทำงานก่อนการเจ็บป่วย โดยจะได้รับสิทธิ์เหมือนกับผู้ประกันตนมาตรา 39