แนะสวดมนต์ข้ามปีออนไลน์ผ่าน “แอปพลิเคชัน” ดึงวัยรุ่นเข้าร่วมกิจกรรม ด้าน วธ.ชวนร่วมงาน “อารามอร่าม 11 วัด 1 โบสถ์พราหมณ์ 1 พิพิธภัณฑ์ ประดับไฟฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2568” ร่วมสืบสานวิถีพุทธ เรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชนรอบวัด 7 ธันวาคม 2567 – 1 มกราคม 2568
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชนและประชาชน ที่มีต่อกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี ต้อนรับศักราชใหม่ 2568” จากกลุ่มตัวอย่างเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 23,492 คน จากการสอบถามเด็ก เยาวชน และประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.37 เข้าร่วมกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี ต้อนรับศักราชใหม่ 2568” ร้อยละ 40.15 ไม่แน่ใจแล้วแต่โอกาส และร้อยละ 18.48 ไม่เข้าร่วม และเมื่อถามเด็ก เยาวชน และประชาชน เหตุใดจึงไม่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ปรากฏว่า ร้อยละ 50.56 ต้องการพักผ่อนอยู่กับครอบครัวที่บ้าน ร้อยละ 35.83 ต้องการร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ และ ร้อยละ 7.14 ต้องทำงาน/เข้าเวร นอกจากนี้เด็ก เยาวชน และประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 50.87 สนใจร่วมกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ณ ศาสนสถานใกล้บ้าน ตามด้วยสถานที่จัดกิจกรรมใกล้บ้าน ร้อยละ 22.33 และรูปแบบออนไลน์ ร้อยละ 14.73 ตามลำดับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า เด็ก เยาวชน และประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้จัดกิจกรรมเพิ่มเติมในพื้นที่จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” คือ กิจกรรมโรงทาน ร้อยละ 44.09 การแสดงศิลปวัฒนธรรม ร้อยละ 44.04 และตลาดวัฒนธรรม ร้อยละ 39.38 อีกทั้งเสนอแนะจัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี ต้อนรับศักราชใหม่ 2568” ในรูปแบบออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อให้วัยรุ่นเข้าร่วมกิจกรรมฯ มากขึ้น พร้อมทั้งให้จัดกิจกรรมที่น่าสนใจช่วงก่อนเริ่มกิจกรรมสวดมนต์ฯ เพื่อดึงดูดประชาชนเข้าร่วมได้มากขึ้น เช่น การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม การจับสลากของขวัญปีใหม่ กิจกรรม Work Shop ทำของที่ระลึก เป็นต้น โดยภายในงานอยากให้มีการเตรียมหนังสือสวดมนต์สำหรับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมอย่างพอเพียงด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา กรมศิลปากร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกันจัดกิจกรรม “อารามอร่าม 11 วัด 1 โบสถ์พราหมณ์ 1 พิพิธภัณฑ์ ประดับไฟฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2568” เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสืบสานวิถีพุทธ เรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชนรอบวัด พร้อมเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ผ่านการชมทัศนียภาพวัด โบสถ์พราหมณ์ และพิพิธภัณฑ์ ยามค่ำทั่วกรุงเทพฯ โดยบูรณาการความร่วมมือกับวัดในกรุงเทพมหานคร 11 แห่ง ได้แก่ 1) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 2) วัดไตรมิตร-วิทยาราม 3) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 4) วัดประยุรวงศาวาส 5) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ 6) วัดสุทัศนเทพวราราม 7) วัดอรุณราชวราราม 8) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม 9) วัดราชนัดดาราม 10) วัดระฆังโฆสิตาราม 11) วัดสระเกศ รวมถึงเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
“ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวให้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ผ่านการชมทัศนียภาพของวัด โบราณสถาน และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่มีความงดงามแตกต่างกันทั้งในช่วงเวลากลางวันและช่วงค่ำ ในระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 1 มกราคม 2568 โดยสามารถเยี่ยมชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. หรือตามที่วัดเห็นสมควร และชมความวิจิตรงดงามของวิหารที่ประดับด้วยแสงไฟ รวมทั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 21.00 น. หรือตามที่วัดเห็นสมควร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว