NEWS |
สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019
📌 สถานการณ์ในไทย
- ผู้ป่วยกลับบ้านได้เพิ่ม 2 ราย
- รวมผู้ป่วยหายกลับบ้าน 33 ราย
- รวมรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 18 ราย
- รวมผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย
- วันนี้ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ 0 ราย
- รวมผู้ป่วยสะสม 50 ราย
📌 จำนวนผู้เฝ้าระวังเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 4366 คน เพิ่มจากเมื่อวาน 130 กว่าคน กลับบ้านได้แล้ว 2629 คน
📌 สถานการณ์ต่างประเทศ
- ยอดผู้ป่วยทะลุหลักแสน
- ในจีน สถานการณ์ชะลอตัวจากผู้ป่วยเพิ่มหลักพัน ตอนนี้เหลือหลักร้อย
- ประเทศอื่นๆยังรุนแรง สธ.ได้จับตามองประเทศกลุ่มนี้อยู่
- สถานการณ์แบบนี้ถือว่าเป็นแรงกดดันให้เรามีโอกาสที่จะเจอผู้เดินทางเข้ามาและอาจมีโรคเพิ่มขึ้น
เราจะเฝ้าระวังกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดและมีมาตรการออกมาตามความเหมาะสมต่อไป
📌 แรงงานไทยที่กลับมาจากประเทศเกาหลีใต้
- กองทัพเรือ ได้เปิดอาคารรับรองสัตหีบ เฝ้าระวังสังเกตุอาการ
- ชุดแรก จำนวน 60 คน เป็นชาย 27 คน หญิง 33 คน
- กรณีคนไทยในเกาหลีใต้ราว 2 แสนที่จะกลับมา “ย้ำว่า ทั้งหมดทยอยเดินทางกลับ ดังนั้นจะมีให้ลงทะเบียนก่อนที่สถานทูตฯ”
- มีชี้แจงขั้นตอนดูแลตัวเอง ตรวจคัดกรองก่อน
- เมื่อเดินทางกลับมาถึงไทยก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนกักโรคตามที่ตั้งไว้ “ย้ำ 2 แสนรายไม่ได้กลับวันเดียว”
- ไฟลท์แรกที่เริ่มดำเนินการ คือ LJ003
- ใน 4 ไฟลท์ที่เราดำเนินการนี้ไม่มีใครหลบหนีไป ทุกคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
- กรณีคนที่หนี คือไฟลท์ก่อนหน้านั้น ซึ่งทำให้คนที่เดินทางมายังไม่ทราบรายละเอียด/มีความไม่เข้าใจ/ตระหนก (ซึ่งส่วนนี้ จนท.มีรายชื่ออยู่ คาดจะติดตามตัวเพิ่ม)
📌 กรณีผู้ที่กลับมาจาก จีน เกาหลีใต้ อิหร่าน อิตาลี จะมีการให้ลงทะเบียน ติดตามผล
- ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องรายงานทุกวัน ผ่านช่องทางที่กำหนดไว้
- ให้กักตัวอยู่ในที่ตั้ง 14 วัน
- หากมีอาการ ก็ให้ติดต่อกลับ พบแพทย์ ซึ่งจะช่วยรักษาได้เร็ว
- มาตรการนี้ ทั้งคนไทย/ต่างชาติ
📌 รวมทุกกรณี
- กรณีมดงานของ สธ. ก็มีสับเปลี่ยนกำลังกันอยู่เท่าที่เป็นไปได้ อาจจะมีบางส่วนที่หนักบ้าง แต่ก็พยายามดูแลให้อยู่
- กรณีกินวิตามินซี มีรายงานการวิจัยมาก่อนหน้านี้แล้วว่า “ไม่สามารถป้องกันได้ หรือลดความรุนแรง หรือรักษาได้”
- กรณีการไปกินชาบูหมูกระทะ
- ผลการสอบสวนโรคของสิงคโปร์ คาดว่ากลุ่มหนึ่งมีการรับประทานอาหารร่วมกัน
- บุฟเฟ่ต์ ยังไปกินได้ ดังนั้นลดความเสี่ยงได้คือ ใช้ช้อนกลาง ก่อนกินก็ล้างมือ เพราะเชื้ออยู่ที่มือเป็นหลัก
- ใช้ช้อน ไม่ใช้มือหยิบก็ช่วยได้
📌 เคสที่อินเดียที่ระบุว่า เดินทางมาจากไทย ซึ่งทาง สธ. ทราบว่า เคสนี้ยังเป็น PUI
📌 ในจำนวน 33 คนของไทย มีเพียงจำนวนไม่มากที่ต้องใช้ยาต้านไวรัส และหายได้เองโดยไม่จำเป็นได้ยาต้านไวรัส
- กรณีต่างประเทศก็เช่นกัน ที่มีอัตราการหายได้เองโดยไม่ต้องใช้ยาต้าน
//เพิ่มเติมจากข้อมูล : คนอายุน้อย ติดได้ยาก เสียชีวิตน้อย, คนแก่ติดง่าย เสียชีวิยสูง
สถาบันบำราศฯ รับสมัคร นักรังสีฯ เพื่อร่วมงานในสถานการณ์โควิด-19 ร่วมกัน
📌 มาตรการของภาครัฐแบ่งเป็น 2 ส่วน
- จัดการผู้เดินทางจากต่างประเทศ
- เฝ้าระวังคนไทยด้วยกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพทำงานใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว
📌 เตรียมความพร้อมรับมือ
- เตรียมความพร้อมสถานพยาบาลหากมีการแพร่ระบาด “ย้ำว่าหากมีการแพร่ระบาด”
ตอนนี้โรงพยาบาลทุกจังหวัดได้เตรียมความพร้อม - ประชาชน หน่วยงานทุกภาคส่วนต้องรู้หน้าที่ของตน ช่วยเหลือกัน เตรียมความพร้อม
📌 เรื่องความกังวลความกลัวของโรคนี้
ปาฐกถา นายกฯ ลี เซียนลุง บอกว่า “ความกลัว ความตื่นตระหนก จะทำอันตรายได้มากกว่าไวรัส”
- อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าโรคนี้เป็นยังไง?
- เรามีโอกาสติดโรคนี้ได้อย่างไร?
- เราป้องกันโรคนี้ได้ยังไง?
ซึ่งดีกว่าการตั้งแง่ ตั้งข้อรังเกียจ ตีตราซึ่งกันและกัน ขอให้เข้าใจกันช่วยเหลือกัน เราจะผ่านปัญหาพวกนี้ไปได้จริงๆ