สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019
📍 สถานการณ์ในประเทศไทย
- 🔺 เพิ่ม ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 106 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
ผู้ป่วยยืนยัน (รายที่ 722-827)
🔸 กลุ่มที่ 1 มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย หรือ สถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ (จำนวน 25 ราย)
▪️ สนามมวย 5 ราย
สนามลุมพินี สนามมวยราชดำเนิน ผู้ชม เซียนมวย
▫️ อยู่ในจังหวัด
- กรุงเทพฯ
- นครปฐม
- สมุทรสาคร
- อุบลราชธานี
▪️ เกี่ยวข้องสถานบันเทิง “จำนวน 6 ราย”
ย่านทองหล่อ RCA นานา
▫️ อาชีพ
- นักท่องเที่ยว
- พนักงานเสริฟ์
▫️ อยู่ในจังหวัด
- สระบุรี
- กรุงเทพฯ
- บุรีรัมย์
- ชลบุรี
▪️ ผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานก่อนหน้านี้ “จำนวน 12 ราย”
▫️ อาชีพ
- พนักงานขายเสื้อผ้า
- เซียนมวย
- พนักงานบริการ
- รับราชการ
- มีประวัติกินข้าวกับผู้ป่วย กินเลี้ยงดื่มสุรากับทางผู้ป่วยที่สถานบันเทิงและใกล้ชิดกับผู้ป่วยในสนามมวย
▪️ ผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานก่อนหน้านี้ “จำนวน 12 ราย”
▫️ อยู่ในจังหวัด
- ปัตตานี
.
🔸 กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ (จำนวน 34 ราย)
▪️ ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ “จำนวน 20 ราย”
- ชาวต่างชาติ 12 ราย ชาวฝรั่งเศส สวีเดน ปากีสถาน อังกฤษ และนิวซีแลนด์
- คนไทย 8 ราย ทำหน้าที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นักศึกษา พนักงานที่ร้านแถวปอยเปต กัมพูชา
▪️ ผู้ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่แออัดใกล้ชิดคนจำนวนมากและเกี่ยวชาวต่างชาติ “จำนวน 10 ราย”
▫️ อาชีพ
- พนักงานรักษาความปลอดภัย รปภ.
- พนักงานรับรถ
- ขับรถรับส่งนักท่องเที่ยว
- ขับรถแท็กซี่
- พนักงานเสริฟ์
- มัคคุเทศก์
- พนักงานในสถานบันเทิง
▫️ อยู่ในจังหวัด
- กรุงเทพฯ
- จันทบุรี
- ชลบุรี
- บุรีรัมย์
- อุบลราชธานี
- ภูเก็ต
- นครราชสีมา
▪️ บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 4 ราย
สาหตุ! เกิดจากผู้ป่วย “ไม่แจ้งประวัติเสี่ยงมาก่อน” ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้จึงได้รับเชื้อไปด้วย และส่งผลกระทบต่องานบริการทางด้านสาธารณสุข ซึ่งทั้ง 4 ท่านนี้ ต้องแอดมิทอยู่ในรักษาโรงพยาบาล
เพื่อดูอาการ
- แพทย์
- พยาบาล
- เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
▫️ อยู่ในจังหวัด
- ภูเก็ต
- ยะลา
- บุรีรัมย์
- นครปฐม
🔸 กลุ่มที่ได้รับผลแล็บยืนยันว่า “พบเชื้อแล้ว” “จำนวน 47 ราย”
แต่ยังอยู่ะในระหว่างสอบสวนโรคและรอประวัติ
▪️ เพิ่ม ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก จำนวน 4 ราย ผู้ป่วยทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด (ตัวเลขยังเพิ่มเรื่อยๆ รอการรายงานจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค)
▪️ เพิ่ม ผู้ป่วยที่เสียชีวิต จำนวน 3 ราย
รายที่ 1 ชาวไทย อายุ 70 ปี ผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร และเสียชีวิตไปเมื่อวานนี้
รายที่ 2 ชาวไทย อายุ 79 ปี ผู้ป่วยที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับสนามมวย รายนี้มีอาการหนักตั้งแต่แรกรับเข้าการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2563 มีโรคประจำตัวหลายโรค
รายที่ 3 ชาวไทย อายุ 45 ปี ผู้ป่วยรายนี้มีภาวะโรคเบาหวาน จากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
▪️ เพิ่ม ผู้ป่วยยืนยัน กลับบ้าน 5 ราย
🔸 รวมผู้ป่วยหายกลับบ้าน 57 ราย
🔸 รวมผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 766 ราย
🔸 รวมผู้ป่วยเสียชีวิต 4 ราย
🔸 ผู้ป่วยสะสม 827 ราย
📍 แจ้ง!! 23 สถานที่เสี่ยงใน 7 จังหวัด
- ให้ผู้เกี่ยวข้อง (ตามวันที่และเวลาดังกล่าว)
- รายงานตัวแก่เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคสาธารณสุขจังหวัด อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บัาน หรือ อสม.
- เฝ้าระวังอาการตนเอง 14 วัน
- หากมีอาการให้ไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที
📍 กรณีสนามมวยเป็น Super Spreader ไหม
- ตอนนี้ ยังไม่ถือว่า มี Super spreader
- ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ว่า ใครเป็นเคสหมายเลข 0
📍 กรณีมาตรการการตรวจเชื้อ
- กรุงเทพฯ ตรวจได้ราว 1 หมื่นเคส/วัน
- ต่างจังหวัด 1 หมื่นเคส/วัน
📍 กรณีผู้เสียชีวิต
- ศพไอจามไม่ได้ ดังนั้นโอกาสระบาดจึงมีน้อยมาก
- เคสคุณลุงที่ป่วยเป็นวัณโรค ก็ไม่พบเชื้อแล้ว ซึ่งปรกติแล้วก็มีผู้ป่วยวัณโรคเสียชีวิต เราก็ไม่ได้กังวลอะไรกัน
สิ่งที่กังวล น่าจะต้องเป็นเรื่องของการที่คนไปรวมตัวกันเยอะๆ มากกว่า
สรุป พิธีศพทำได้ ขอให้ดูแล/จัดงานอย่างเหมาะสม
📍 สำหรับกฏระเบียบ ยาแรงกว่านี้?
- ต้องฝากในประชาชนให้ความร่วมมือ Social Distancing เพิ่มขึ้น
- หากประชาชนให้ความร่วมมือมากขึ้น ก็ไม่จะได้ไม่ต้องประกาศกฎ/ข้อกำหนดเพิ่มเติม ซึ่งจะสร้างผลกระทบเพิ่มอีก
- แต่ถ้าหากไม่ ก็คงต้องมีมาตรการเพิ่มต่อไป
📍 ขอย้ำเตือนประชาชน
- ช่วยเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร
- งด ลด การเดินทางไม่ไปพื้นที่แออัด
- ไม่ใช้ ช้อน ถ้วย ชาม แก้วน้ำ ร่วมกัน
- หากมีอาการทางเดินหายใจ และมีไข้ ไอจาม มีน้ำมูกให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- พร้อมแจ้งประวัติเสี่ยง