ประเด็นน่าสนใจ
- หวังไม่ให้เชื้อโควิด-19แพร่ระบาดตามจุดประสงค์รัฐบาล
- ทัพบกยกโมเดลคุมม็อบปี 2557 มาดำเนินการ
- ทัพเรือดูพื้นที่ย่านปิ่นเกล้า
- ทัพอากาศดูพื้นที่ดอนเมือง-สนามบิน-สุวรรณภูมิ
ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีรายงานว่า ทางกองทัพ ได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว โดย พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้แต่ละกองทัพภาค
เตรียมแผนและจัดกำลังทหารที่จะออกไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ร่วมกับตำรวจ เช่น การตั้งจุดตรวจคัดกรอง ควบคุมพื้นที่ พร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมาย โดยใช้มาตรการขั้นสูงสุดเพื่อยับยั้งเชื้อโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาด
เบื้องต้นในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล จะใช้โมเดลเหมือนปี 2557 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาเป็นโมเดลหลักในการควบคุมพื้นที่ สำหรับหน่วยที่จะคุมพื้นที่ ได้ยึดตามพื้นที่รับผิดชอบเดิม คือ
- มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) จะคุมพื้นที่ในเมืองหลวงร่วมกับ สารวัตรทหาร (สห.) ของ 3 เหล่าทัพ
- กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์(พล.ร.2 รอ.) จะดูแลโซนภาคตะวันออกของ กทม. ได้แก่ มีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก รังสิต สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ จ.ปทุมธานี
- กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) รับผิดชอบโซนภาคตะวันตกของ กทม.และปริมณฑล ได้แก่ ปิ่นเกล้า พระราม 2 จ.นนทบุรีฝั่งตะวันตก บางแค พุทธมณฑล จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร
- หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก (นปอ.) ดูแลพื้นที่ แจ้งวัฒนะ ดอนเมือง โซนใน จ.นนทบุรี -จ.ปทุมธานี
กองทัพเรือ จะดูและพื้นที่ ในแถบที่ตั้งของหน่วยหรือพื้นที่ปิ่นเกล้า
กองทัพอากาศ จะร่วมปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดอนเมือง ตามที่ตั้งของหน่วย ทอ. และสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นหลัก
สำหรับการสัญจรในช่วงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ผู้ที่ต้องออกมาปฏิบัติหน้าที่ เช่น ข้าราชการ สื่อมวลชน ฯลฯ เมื่อถึงจุดตรวจต้องแจ้ง ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ แจ้งภารกิจ และแจ้งว่ามาจากไหนไปไหน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลเข้าระบบ หากเกิดการติดเชื้อจะได้ควบคุมพื้นที่ได้รวดเร็ว
ข้อมูลจาก/Army Times Thailand