NEWS |
สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019
ข่าวดี
- ประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมตอนนี้ประเทศไทยหลุดอันดับ 10 ของโลกแล้ว
- ผู้ป่วยหายเพิ่ม 1 ราย เป็นคนจีน อายุ 30ปี รักษาที่สถาบันโรคทรวงอก
- บุคลากรทางการแพทย์ที่บอกว่าติดเชื้อจากคนไข้ในโรงพยาบาลเอกชนนั้นตอนนี้กลับบ้านไปเรียบร้อยแล้ว
- พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 1 ราย เป็นคนไทย อายุ 25 ปี ทำหน้าที่คนนำเที่ยวอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้
ได้รับรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร และกำลังติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด
สรุปในไทย
- หายแล้ว 28 ราย
- รักษาในโรงพยาบาล 13 ราย
- รวมผู้ป่วยสะสม 41 ราย
อัปเดต! อาการผู้ป่วยหนัก 2 ราย ที่รักษาอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร
- ข่าวดี คือ ผลตรวจห้องแล็บไม่พบเชื้อแล้ว ตอนนี้รักษาให้ร่างกายฟื้นตัวเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
อัปเดต! ผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวน [รอตรวจ แปลว่า ยังไม่ติดเชื้อ] เมื่อวานนี้มี 373 ราย
กลุ่มที่เฝ้าระวังตามมาตรฐานแบ่งออก 3 ระดับ
- กลุ่มที่ต้องแยก กักกัน คุมไว้สังเกตการณ์ คือ กลุ่มที่มีอาการ และประวัติเสี่ยง
- กลุ่มผู้ที่สัมผัสไม่มีอาการ คือ มีประวัติใกล้ชิดผู้ป่วยหรือผู้สงสัยว่าป่วย แนะนำว่าให้ดูแลตัวเองที่บ้าน ไม่พบปะคลุกคลีกับผู้อื่น แยกห้องนอน ของใช้ส่วนตัว
หากเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง แต่ไม่มีอาการ ขอความร่วมมือดูแลตัวเองที่บ้านที่พัก 14 วัน งดกิจกรรมทางสังคม ไม่พบปะคลุกคลีกับผู้อื่น
แต่ถ้ามีไข้ ไอ ให้รีบพบแพทย์ทันที - กลุ่มอยู่ในชุมชนเดียวกันหรือประชาชนทั่วไป แนะนำกินข้าวร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
ใส่หน้ากากอนามัย เลี่ยงพื้นที่คนอยู่หนาแน่น
ย้ำ กลุ่มคนที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ทุกคนไม่ใช้ผู้ป่วยทั้งหมด
❤️ “ขอให้อย่ารังเกียจ ตำหนิ ล้อเลียน คนกลุ่มนี้ ขอให้กำลังใจชื่นชมเขาที่กล้าบอกแจ้งประวัติกับทางเจ้าหน้าที่
ถ้าเราไปตำหนิ ล้อเลียน เขาอาจจะไม่กล้าแสดงตัวไม่กล้าแจ้งประวัติ สมมุติว่า ถ้าเขาป่วยจริงขึ้นมาจะอันตรายมาก”
ข่าวดี
- การพัฒนาวัคซีนประเทศไทย เราร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อย.
องค์การเภสัชกรรม วิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัทไบโอเนทไทย สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกันพัฒนาวัคซีนต่อต้านโรคไวรัสโคโรน่า2019 เพื่อให้ประเทศไทยมีภูมิคุ้มกัน
กรณีการตรวจเชื้อ/พัฒนาวัคซีน
- กรมวิทยาศาสตร์ก็เพาะเชื้อได้เป็นรายแรกๆ ของโลก
- เราสามารถเลี้ยงเซลล์/วัดปริมาณเชื้อได้
- เรามีศูนย์ทดลองที่มีมาตรฐานระดับโลก
- และสามารถวัดค่าต่างๆ ได้
ทำให้เราสามารถศึกษา/พัฒนาวัคซีนได้ดีขึ้น
กรณีการตรวจเชื้อ
- เรามีแล็บ/สถาบันที่มีสามารถตรวจหาเชื้อได้มากขึ้น หลายแห่ง
- เรามีน้ำยาตรวจที่ได้มาตรฐาน และมีเพียงพอ
ย้ำว่าทาง สธ. ไม่ได้ปกปิดข้อมูลและขออธิบายอีกว่า
- เรายังอยู่ในระยะที่ 2
- ควรเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ประเทศเสี่ยง
- ย้ำ เมื่อเดินกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ควรดูแลปฏิบัติตัวเองตามขั้นตอนตามคำแนะนำ
- กลุ่มที่มีอาการมาหาหมอ และกลุ่มที่ไม่มีอาการ “อย่าปกปิดข้อมูล”
- อย่าตำหนิ กล่าวร้าย ผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
- บุคลากรทางการแพทย์ทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติดูแล ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด
ขอให้รับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อคนในครอบครัว ต่อสังคม
กรณีคำเตือนเรื่องของปลาดิบ
- ให้ดูกระบวนการ/ขั้นตอนการปรุง ซึ่งถ้าถูกสุขลักษณะ ก็ไม่ได้มีข้อแนะนำอะไรเป็นพิเศษ “ทานได้”
- แต่ถ้าไม่ทราบก็ ย้ำว่า กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
กรณีค่าใช้จ่ายในการตรวจ
- ย้ำ กรณีที่เป็นผู้ที่เข้าเกณฑ์ เข้าข่ายที่จะต้องตรวจก็จะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ถ้าไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง อยากตรวจเพื่อให้ทราบเฉยๆ ก็อาจจะมีค่าใช้จ่าย
หลังจากที่ประกาศให้โควิด19 เป็นโรคติดต่ออันตราย เมื่อมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
- กรณีพบเห็นผู้ที่เข้าเกณฑ์ในกลุ่มเสี่ยง ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ ใน 3 ชม.
- ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา รักษาฟรี
- คนไทยสามารถใช้สิทธิ์ต่างๆ ได้ทุกสิทธิ์
สำหรับผู้ที่เข้าเกณฑ์ คือ
- ประวัติการเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
- มีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก หรือไม่?
ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ให้รีบไปโรงพยาบาล แต่ถ้าเพิ่งกลับมาเฉยๆ ไม่มีอาการ ก็ไม่แนะนำให้ไปตรวจ เพราะโอกาสตรวจพบเชื้อยากกว่ามีอาการ
ลิ้งค์แบบทดสอบ ความเสี่ยงติดเชื้อโควิด19 หรือไม่?
- http://rajavithi.emergencymed.net/corona/
- ไปทดสอบตัวเองดูก่อนได้ครับ