สุดสะพรึง กลุ่มติดอาวุธโจมตีกรุงจาการ์ตา บึ้มสนั่น 3 จุด อาจมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายในตะวันออกกลาง
หลังจากเกิดเหตุโจมตีกลางกรุงจาการ์ตา ทั้งการใช้ระเบิดแบบดาวกระจาย 3 จุด รวมทั้งยังมีการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในย่านที่มีชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวตะวันตก อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีสถานที่สำคัญ ที่มีความเกี่ยวโยงกับโลกตะวันตกหลายแห่ง เช่น สำนักงานย่อยขององค์การสหประชาชาติ และสถานทูตฝรั่งเศส รวมถึง หนึ่งในจัดเกิดเหตุระเบิด คือร้านกาแฟ ‘สตาร์บัคส์’ กาแฟสัญชาติอเมริกันอีกด้วย
จากปัจจัยที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีประชากรชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก และมีการตั้งข้อสังเกตหลายประการ ถึงเกี่ยวกับความขัดแย้งทางเชื้อชาติและศาสนา รวมถึงความเป็นไปได้ที่การโจมตีครั้งนี้ จะมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มติดอาวุธชื่อก้องโลก อย่างกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย หรือ ‘กลุ่มไอเอส’
ก่อนหน้านี้ สื่อสิงคโปร์ มีการตั้งข้อสังเกต ถึงลำดับเหตุโจมตีครั้งใหญ่เช่นนี้ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะในอดีต เหตุโจมตีในอินโดนีเซีย เกิดขึ้นต่อเนื่องกับเป็นเวลานาน 9 ปี และไม่เกิดขึ้นอีกเป็นเวลา 6 ปี ซึ่งน่าจะมาจากมาตรการในการปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงจากรัฐบาล จนกระทั่งเกิดเหตุระเบิดในครั้งล่าสุด ที่มาพร้อมกับข้อกังขาหลายประการ
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในกรณีดังกล่าวคือ มีการแพร่ข้อสงสัย จากสื่อยักษ์ใหญ่อย่างซีเอ็นเอ็น ที่ระบุว่า จากปัจจัยที่อินโดฯ เป็นดินแดนของชาวมุสลิม เป็นไปได้ว่า ชาวมุสลิมเหล่านี้ จะเดินทางไปฝึกฝนการสู้รบ ร่วมกับกลุ่มไอเอส ในอิรัก และซีเรีย และเดินทางกลับมาพร้อมกับทักษะการต่อสู้ รวมทั้งก่อการร้ายในประเทศตัวเองก็เป็นได้
นอกจากนี้กลุ่มไอเอส ที่ต้องการขยายอำนาจไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ประเทศที่เป็นดินแดนของชาวมุสลิมอย่างอินโดนีเซีย จึงอาจตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มไอเอสก็เป็นได้ แต่ไม่เพียงแต่อินโดนีเซียเท่านั้นที่ตกเป็นเป้า เพราะก่อนหน้านี้ มีกรณีของชาวมุสลิมอุยกูร์ ในเขตปกครองซินเจียง ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน ที่มีการวางแผนก่อการร้าย รวมถึงมีการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ ของประเทศไทยเช่นเดียวกัน
เสียงสะท้อนจากกรุงปารีส ถึงจาการ์ตา ?
แม้ว่าเรื่องราวจะจบไป สำหรับเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย. เมื่อปีที่แล้ว แต่ซีเอ็นเอ็น สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ได้นำเอาเรื่องราวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงจาการ์ตาครั้งนี้มีผูกโยงกัน โดยนักวิเคราะห์ด้านการรักษาความปลอดภัย ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ มีข้อสังเกตหลายอย่างที่บอกเป็นนัยได้ว่า กลุ่มไอเอสอาจมีส่วนร่วมในการบงการไม่มากก็น้อย ทั้งเรื่องการโจมตี และการใช้วัตถุระเบิดโจมตีเป้าหมาย
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในอินโดฯ ได้รับการยกย่องว่าสามารถโค้นล้มกลุ่ม ‘ญะมาอะห์ อิสลามียะห์’ เครือข่าวของกลุ่ม อัลกออิดะห์ ซึ่งขยายอำนาจทางความคิดสุดโต่งไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ก่อเหตุวางระเบิดไนท์คลับซึ่งเป็นแหล่งของชาวตะวันตก ที่ขัดต่อหลังศาสนาท้องถิ่นทั้งเรื่องสุรา ของมึนเมา ในปี 2545 ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า กลุ่มติดอาวุธในท้องถิ่ง เกลียดชังและมีเป้าหมายการโจมตีเป็นชาวตะวันตกโดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม หากโลกอิสลามไม่สามารถผลักดันแนวคิด หรือ วัฒนธรรมจากโลกตะวันตกออกไปได้ เหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้อาจเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็เป็นได้
อ่านลำดับเหตุการณ์โจมตีกรุงจาการ์ตาทั้งหมดได้ที่นี่ เกาะติด เหตุโจมตีในอินโดนีเซีย
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ news.mthai.com
MThai News