เสียงสะท้อนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

รายงานพิเศษ : เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการและแรงงาน หลังรัฐบาลเตรียมปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

เรื่องร้อนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คงจะหนีไม่พ้นกรณีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเป็นที่จับตาอย่างมากจากหลายภาคส่วน วันนี้ทางทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่ เพื่อสำรวจความคิดเห็นและฟังเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการ รวมไปถึงพี่น้องแรงงานถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในครั้งนี้

แม้การประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าจ้าง ที่มี นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมาจะยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2561 โดยให้อนุกรรมการกลับไปจัดทำข้อมูลตัวเลขค่าจ้างของแต่ละกลุ่มจังหวัดให้ชัดเจนตามข้อเสนอของคณะกรรมการฯ เพื่อการพิจาณาที่รอบคอบ

โดยจากนี้จะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 17 มกราคม ก่อนนำข้อสรุปเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ซึ่ง นายจรินทร์ ยืนยันว่า อัตราค่าแรงใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีภายในสิ้นเดือนนี้ ตามข้อสั่งการของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการมอบของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องแรงงานไทยทั่วประเทศ

ที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการจ่ายค่าแรงของบรรดาผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs แม้ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะระบุว่าการปรับขึ้นค่าแรงในครั้งนี้จะต้องไม่สร้างผลกระทบให้กับเหล่าผู้ประกอบการ รวมถึง SMEs และ Start Up

แต่ในมุมมองของผู้ผลิตและจำหน่ายขนมปังเพื่อสุขภาพ แบรนด์ Kafer House หนึ่งในผู้ประกอบการภาค SMEs ให้ความเห็นว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยมองว่า การปรับขึ้นค่าแรงไม่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวอยู่ ณ ขณะนี้

ผู้ประกอบธุรกิจยังคาดการว่า การปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำอาจมีส่วนทำให้ภาคธุรกิจถ่ายโอนการใช้แรงงานไปสู่การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเร็วขึ้น ขณะที่แรงงานส่วนใหญ่ บอกกับทีมข่าวว่า รู้สึกพอใจกับการปรับขึ้นของค่าแรง พร้อมให้ความเห็นว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้พอสมควร

แต่แท้ที่จริงแล้วสิ่งสำคัญกว่าการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำคือ การที่แรงงานไทยจะต้องพัฒนาตนเองสู่การเป็นแรงงานฝีมือ เช่นเดียวกับภาครัฐที่จะต้องมุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพฝีมือแรงงานในประเทศ …