ไทม์ไลน์สีสัน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ 1 ปีแรก ผู้นำสหรัฐฯ

ย้อนดูวีรกรรม  โดนัลด์ ทรัมป์ หลังทำงานในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครบ 1 ปี ทั้งวิวาทะ นโยบาย และคำสั่งที่สร้างความประหลาดใจ เสร็จสิ้นการฉลองตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ครบรอบ 1 ปี โดยตลอดการทำงานในฐานะผู้นำของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐ ทรัมป์…

Home / NEWS / ไทม์ไลน์สีสัน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ 1 ปีแรก ผู้นำสหรัฐฯ
ย้อนดูวีรกรรม  โดนัลด์ ทรัมป์ หลังทำงานในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครบ 1 ปี ทั้งวิวาทะ นโยบาย และคำสั่งที่สร้างความประหลาดใจ

เสร็จสิ้นการฉลองตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ครบรอบ 1 ปี โดยตลอดการทำงานในฐานะผู้นำของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐ ทรัมป์ มีวาทะ นโยบาย และคำสั่งที่สร้างความประหลาดใจ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ต่อต้าน และได้รับความสนใจจากทั่วโลกได้หลายครั้ง นับเป็นผู้นำที่มีสีสันไม่น้อย วันนี้จึงจะพาย้อนดูวีรกรรมของทรัมป์ อีกครั้ง

20 มกราคม ปี 2560 นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ แต่ความชื่นมื่นยังไม่ทันจางหาย เพียงวันเดียว ทรัมป์ก็ตอบโต้สื่อ รายงานอย่าลำเอียงว่าจำนวนคนที่มาร่วมงานสาบานตนรับตำแหน่งน้อยกว่าความเป็นจริง

24 มกราคม ปีเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามในคำสั่งบริหาร เพื่อกีดกัดไม่ให้พลเมืองจาก 6 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายที่สนามบินและสร้างความสงสัยเกี่ยวกับนโยบายด้านผู้อพยพของสหรัฐฯ ขณะที่ศาลกลางสหรัฐฯ ไม่อนุมัติคำสั่งดังกล่าว

13 กุมภาพันธ์ นายไมเคิล ฟลินน์ ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ เพราะตรวจพบว่า “ฟลินน์” เคยติดต่อกับทางการรัสเซีย นี่จึงส่งผลต่อความเชื่อในผู้นำโลกทันที

6 เมษายน สหรัฐฯ มีคำสั่งโจมตีจากกองเรือยิงขีปนาวุธไปยังซีเรีย ตอบโต้ต่อการใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือน ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับรัสเซียทันที

สีสันของผู้นำชาติอเมริกัน ยังไม่จบและเรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย เมื่อ เขาไล่นาย “เจมส์ โคมีย์ อดีตผอ. FBI ออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้ง “โรเบิร์ต มุลเลอร์” เป็นที่ปรึกษาพิเศษเพื่อสืบสวนความเกี่ยวข้องของ “โคมีย์” และรัสเซีย ขณะที่สื่อมองว่าเป็นการกลบประเด็นที่เขาผอ. FBI เพ็งเล็งเรื่องของความสนิทของทรัมป์ กับรัสเซีย เช่นกัน

โดนัล ทรัมป์
โดนัล ทรัมป์

1 มิถุนายน สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากการเป็นภาคีข้อตกลงปารีสว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลก ส่งผลให้ทั่วโลกไม่พอใจท่าทีนี้

7 กรกฎาคม ทรัมป์ พบกับประธานาธิบดี “ ปูติน” ของรัสเซีย ครั้งแรก ระหว่างร่วมประชุม จี 20 ขณะที่ข่าวอื้อฉาวที่รัสเซียอาจมีเอี่ยวในการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ยังคงไม่มีข้อเท็จจริงปรากฏ

8 สิงหาคม ทรัมป์ก็สร้างวาทะกรรมสีสันอีกครั้ง เมื่อเขากล่าวหา เกาหลีเหนือไม่น่าเกรงขามพอที่จะเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ หลังจากที่นายคิม จอง-อึน ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป 2 ครั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม

พฤศจิกายน 2560 ทรัมป์ เดินทางเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน จากนั้นร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่เวียดนาม และร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ฟิลิปปินส์ แม้จะเป็นสัญญานที่ดี แต่ไม่วายที่จะถูกจับผิด เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ถึงพฤติกรรมส่วนตัว

6 ธันวาคม 2560 รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศรับรองให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการต่อต้านจากทั่วโลกแม้มิตรแท้อย่างอังกฤษก็ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้

4 มกราคม 2561 ประธานาธิบดีทรัมป์ เผชิญมรสุมจากข่าวด้านลบจากหนังสือเปิดโปงเกี่ยวกับนายทรัมป์ที่ชื่อว่า “Fire and Fury : Inside the Trump White House” ที่เขียนโดยนายไมเคิล วูฟฟ์ โดยออกมาตอบโต้ว่า ข้อความหลายอย่างในหนังสือดังกล่าวโกหก หนึ่งในเรื่องที่หนังสือเปิดโปงคือ ทีมทำงานของนายทรัมป์ได้พบกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในระหว่างการหาเสียง

เหล่านี้ คือเรื่องฮือฮา ตลอดการดำรงตำแหน่งปีแรกของนายทรัมป์ที่เชื่อว่าปีที่2 สีสันน่าจะดุเดือดขึ้น

กมลชนก ดิลกรัชตสกุล MONO 29 รายงาน