ไขข้อสงสัยคดีหวย 30 ล้าน กับคำถามที่สังคมต้องการคำตอบ หลังการแถลงข่าวของตำรวจ ชี้เจ้าของที่แท้จริงคือครูไม่ใช่หมวด
จากคดีแย่งชิงสิทธิ์ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 30 ล้านบาท ครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี กาญจนบุรี ที่อ้างว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ แต่ไม่ได้ขึ้นเงินเพราะลอตเตอรี่หาย กระทั่งหมวดจรูญ วิมูล อดีตตำรวจ เป็นผู้ไปขึ้นเงินรางวัล ทำให้ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ยืนยันเป็นของตัวเอง
ล่าสุดวันที่ 31 ม.ค. การแถลงของตำรวจ ก็สรุปได้ คือ จะมีการส่งฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ในคดียักยอกทรัพย์ และรับของโจร โดยปมที่ตำรวจนำมาเป็นน้ำหนักในการทำสำนวนคือ พยานบุคคล’ 40 ปาก ให้การเชื่อมโยงกัน ว่าลอตเตอรี่ดังกล่าว ขายจากแม่ค้าในตลาดแห่งนี้จริงและ พยานก็ยืนยันว่า คนซื้อคือ ครูปรีชา ที่สำคัญคือ พยานยังบอกด้วยว่า มีคนเก็บลอตเตอรี่จริงเพราะเห็นในระยะ 20 เมตร
พยาน 40 ปากเชื่อถือได้หรือไม่ ?
เรื่องนี้ไม่สร้างความน่าเชื่อถือ เพราะสามารถกลับคำให้การได้ในชั้นศาล และศาลจะต้องดูด้วยว่าพยานนี้ได้มาอย่างไร และก็ยังไม่เห็นหลักฐานที่ชี้ชัดได้เลยว่าร้อยตำรวจโทจรูญ ก้มเก็บลอตเตอรี่ คดีนี้จึงถือว่าเพิ่งเริ่มต้น
แต่ !! ฝั่งร้อยหมวดจรูญ ก็มีจุดอ่อน คือ ไม่มีพยานมายืนยันว่าซื้อลอตเตอรี่จริง
ทำไมรอยนิ้วมือลอตเตอรี่ ไม่มีน้ำหนัก ?
การไม่นำ รอยนิ้วมือจากลอตเตอรี่มาประกอบสำนวนนั้น อัยการเผยว่า ส่วนหลักฐานรอยนิ้วมือของร้อยตำรวจโทจรูญ ศาลคงไม่อาจนำมาพิจารณา เพราะเป็นข้อยุติอยู่แล้ว ว่าบุคคลที่ไปขึ้นเงิน ย่อมต้องมีรอยนิ้วมือปรากฎอยู่ดังนั้นคดีนี้ถ้าอัยการเชื่อตามตำรวจ ก็สั่งฟ้อง ถ้าไม่เชื่อหรือยังไม่มั่นใจ ก็ยังไม่สั่งฟ้อง ซึ่งในท้ายที่สุดศาลจะเป็นผู้ชี้ขาดในเรื่องนี้
ภาพถ่ายแผงสลาก ของแม่ค้า อ้างว่าเป็นหลักฐาน ?
ต้องดูก่อนว่าสร้างความน่าเชื่อถือของแม่ค้า มากแค่ไหน มีที่มาที่ไปอย่างไร มีความเกี่ยวโยงกันอย่างไร และทำไมถึงขายเกินราคา
การตั้งข้อหา รับของโจร ของพนักงานสอบสวน ?
รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ให้ข้อมูลว่ายังไม่มีหลักฐานใด ที่หมวดจรูญก้มเก็บสลาก คดีนี้จึงยังเป็นการแจ้งข้อหาเริ่มต้น
การตั้งข้อหายักยอกทรัพย์ ของพนักงานสอบสวน ?
ด้านทนาย เกิดผล แก้วเกิด ให้ข้อมูลว่า การตั้งข้อหาว่า ยักยอกทรัพย์ฯ หรือรับของโจร แปลว่า ไม่มีใครพบเห็นว่าใครเป็นผู้เก็บได้ เพราะถ้ามีใครเห็นว่ามีคนเก็บได้ ต้องดำเนินคดีเพียงข้อหาเดียว คือ ยักยอกทรัพย์เท่านั้น
เพราะการที่ตั้งข้อหาว่า หรือรับของโจรพ่วงเข้ามาด้วย หมายความว่า ไม่มีคนเห็นว่าใครลักหรือยักยอกทรัพย์นั้นๆ แต่ของกลางนั้นๆ มาอยู่ในความครอบครองของผู้ถูกกล่าวหา ดังนั้นการตั้งข้อหาว่า ยักยอกทรัพย์ฯ หรือรับของโจร แปลว่าไม่มีใครเห็นคนร้ายลักทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์สินที่สูญหาย
