ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ เขต 3 จ.ตรัง บุกป่าขึ้นเทือกเขาบรรทัด หาเสียงกับกลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าซาไกมันนิ ที่ได้บัตรประชาชนแล้ว สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต สส.ตรัง เขตเลือกตั้งที่ 3 พรรคประชาธิปัตย์ นำลูกสาวคือ นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ผู้สมัครหมายเลข 11 พรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 3 ซึ่งเป็นทายาททางการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรกแทนคุณพ่อ (นายสมชาย) พร้อมทีมงานผู้ช่วยหาเสียง บุกป่าด้วยรถยกสูง และรถจักรยานยนต์ขึ้นเทือกเขาบรรทัด ระยะทางจากจุดจอดรถบริเวณเชิงเขา หมู่ที่ 5 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน ขึ้นไปบนภูเขา ที่บ้านเขาน้ำเต้า หมู่ที่ 5 ต.ลิพัง ระยะทางประมาณ 2 กม.
ซึ่งเส้นทางเป็นไปด้วยความยากลำบากมาก ไม่มีถนนมีเพียงแผ่นกระดานไม้ที่ชาวบ้านช่วยกันทำ พอให้สามารถรถจยย.วิ่งเข้าออก หมู่บ้าน และขนของป่าและยางพารา เพื่อเข้าไปหาเสียงกับชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าซาไกมันนิ ตระกูล “ศรีลิพัง” ซึ่งกลุ่มดังกล่าวนี้เป็น 1 ใน 3กลุ่มของกลุ่มชาติพันธุ์ซาไกมันนิบนเทือกเขาบรรทัด อ.ปะเหลียน ที่ได้รับบัตรประชาชนแล้วรวม 3 ตระกูล ประกอบด้วย ตระกูลศรีลิพัง ,ตระกูลศรีปะเหลียน และตระกูลศรีสันติราษฎร์ รวมประมาณ 80 คน และทั้งหมดมีสิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังได้รับบัตรประชาชน
โดยกลุ่มตระกูล “ศรีลิพัง” มีทั้งหมด 9 ครัวเรือน สมาชิกรวม 34 คน ได้รับบัตรประชาชนครั้งแรกเมื่อปี 2559 และสามารถเลือกตั้งได้แล้วจำนวน 16 คน โดยทั้งหมดมีอาชีพหาของป่า และกรีดยางพารา บางรายมีสวนยางเป็นของตนเอง แต่สภาพความเป็นอยู่ยังเป็นแบบดั้งเดิมและพัฒนาเริ่มสร้างถาวรแล้ว คุณภาพชีวิตยังไม่ได้พัฒนา เพื่อหาเสียงกับชาวบ้านชนเผ่าซาไกมันนิ และศึกษาสภาพความเป็นอยู่ในการหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือยกระดับคุณภาพชีวิตต่อไป
ด้านนายแมว ศรีปะเหลียน อายุ 34 ปี ซึ่งชาวบ้านยกย่องให้เป็นผู้ใหญ่บ้านของกลุ่ม กล่าวว่า ดีใจที่จะได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของกลุ่มซาไกมันนิบนเทือกเขาบรรทัด จ.ตรัง หลังได้บัตรประชาชน เมื่อปี 2559 และในวันเลือกตั้งที่ 24 มีนาคมจะนำลูกบ้านไปเลือกตั้ง แม้จะยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร เพราะยังไม่มีใครมาหาเสียง โดยพรรค ปชป.เป็นพรรคแรกที่เข้ามาหาเสียง สิ่งที่อยากได้จากรัฐบาลหลังการเลือกตั้งคือ อยากให้ช่วยทำถนนคอนกรีตเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน ให้ เพื่อให้สามารถเข้าออกหมู่บ้านได้สะดวก โดยเฉพาะเวลาเจ็บป่วย รวมทั้งอยากขอกระแสไฟฟ้า และอยากให้ช่วยเรื่องราคายางพารา ให้ได้ที่ ก.ก.ละ 100 บาท เพราะปัจจุบันราคาตกต่ำมาก มีรายได้ไม่พอรายจ่าย
