คดียิงสังหารน้องสปาย และน้องฟอส ปิดฉากได้ภายใน 25 วัน ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ทำทุกวิถีทางเพื่อไล่ล่าเสี่ยอ้วน และลูกน้อง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญ เมื่อนางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ “สปาย” และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ “ฟอส” ถูกคนร้ายดักยิงสังหารอย่างเหี้ยมโหด เบื้องหน้าพระพุทธรูปแกะสลัก หน้าผาเขาชีจรรย์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
หลังเกิดเหตุ ตำรวจภูธรภาค 2 ระดมทีมสืบสวนไล่ล่าแก๊งคนร้าย พร้อมตั้งปม “ชู้สาว” จากเบาะแสที่มีเสี่ยมาติดพันน้องสปาย จนนำไปสู่การทยอยออกหมายจับผู้ต้องหา นำโดย นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “อ้วน” เจ้าของสถานบันเทิงที่หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต แถมมีประวัติยิงพ่อค้าไอศกรีมเสียชีวิต แต่รอดคุกไปได้
ต่อมา 31 กรกฎาคม ตำรวจสามารถรวบตัว นายสายันต์ ศรีสุข ซึ่งทำหน้าที่แฝงเป็นแฟนของเพื่อนผู้เสียชีวิต เพื่อสืบข่าวและชี้เป้าหมายตลอดเส้นทาง พร้อมให้การว่าเสี่ยอ้วน โกรธแค้นที่น้องสปาย ซึ่งหมายปองอยู่ และเคยทำงานในสถานบันเทิงของเสี่ยอ้วน ตีตัวออกห่าง ก่อนย้ายมาทำงานในจังหวัดนครปฐม พร้อมกับน้องฟอส จึงให้สืบหาที่อยู่ของทั้ง 2 ก่อนตามมาสังหาร
ต่อมา 1 สิงหาคม ตำรวจจับกุม นายเกียรติศักดิ์ สุรางแสงมีบุญ หรือ “บอล” ซึ่งทำหน้าที่ขับรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว พามือปืนพร้อมอาวุธ มาจากจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งยังเป็นคนพาเสี่ยอ้วน หลบหนีไปอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ก่อนหนีไปกัมพูชา
จากนั้น 3 สิงหาคม ชุดสืบสวน คุมตัว นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือ “ป๊อปปี้” หนึ่งในทีมสังหาร หลังติดต่อมอบตัว โดยนายจิรศักดิ์ ทำหน้าที่ขับรถเช่า โตโยต้า ยาริส สีขาว เพื่อสะกดรอยติดตามผู้เสียชีวิต พร้อมกับเสี่ยอ้วน
ต่อมาวันที่ 4 สิงหาคม / นายกฤษณะ ศรีสุข หรือ “มด” ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายบอล ในการสะกดรอย ได้เข้ามอบตัว / หลังจากนั้น 6 สิงหาคม ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 จับกุม นายณรงค์ วรินทรเวช หรือ “บ่าว” มือปืนผู้ลั่นไกสังหาร หลังหนีมาซ่อนตัวในพื้นที่นครศรีธรรมราช พร้อมซัดทอด “เสี่ยอ้วน” ถือปืน 2 กระบอก ยิงใส่น้องสปาย ก่อน จากนั้น นายบ่าว จึงตามมายิงซ้ำ 4 นัด ก่อนทั้งหมดจะพากันหลบหนี
ขณะที่ลูกน้องทยอยมอบตัวและถูกจับกุม เสี่ยอ้วน ได้หนีไปกบดานยังกัมพูชา ซึ่งตำรวจไทย ต้องประสานทางการเพื่อนบ้าน ไล่ล่า และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องออกโรงขู่ให้มอบตัว เพราะมีเพียง 2 ทางเลือก คือ ทางตัน และทางตาย
จนในที่สุด 15 สิงหาคม ตำรวจกัมพูชา จับกุมเสี่ยอ้วน ได้ที่จังหวัดไปรเวง ขณะเตรียมหลบหนีเข้าเวียดนาม ทางตำรวจไทยจึงเร่งประสานขอตัวกลับมาดำเนินคดี กระทั่งทางการกัมพูชา คุมตัวเสี่ยอ้วน มาส่งเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว ในช่วงค่ำวันที่ 21 สิงหาคม ก่อนจะคุมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จากอรัญประเทศ ตรงเข้ากรุงเทพฯ เพื่อสอบสวน-ดำเนินคดีทันที ซึ่งเป็นการปิดฉาก 25 วัน ปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้