พาราควอต

ก.เกษตรฯ ชี้แบนพาราควอต เป็นอำนาจคณะกรรมการวัตถุอันตราย

ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้มติการจำกัดใช้สารเคมี 3 ชนิดเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจำนวน 29 ท่าน โดยระบุมีตัวแทนจากกระทรวงเกษตรเพียง 5 อธิบดีเท่านั้น นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุ มติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ให้ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชพาราควอตต่อไปได้โดยจำกัดการใช้นั้น…

Home / NEWS / ก.เกษตรฯ ชี้แบนพาราควอต เป็นอำนาจคณะกรรมการวัตถุอันตราย

ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้มติการจำกัดใช้สารเคมี 3 ชนิดเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจำนวน 29 ท่าน โดยระบุมีตัวแทนจากกระทรวงเกษตรเพียง 5 อธิบดีเท่านั้น

นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุ มติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ให้ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชพาราควอตต่อไปได้โดยจำกัดการใช้นั้น เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการฯ ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรฯ โดยคณะ กรรมการฯ มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการจำกัดการใช้อย่างเข้มงวด ยืนยัน ไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมหรือกดดันการพิจารณาเพื่อยื้อการยกเลิกออกไป

โดยขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ กำลังรอรับหนังสือมติการพิจารณาทบทวนการควบคุมสารพาราควอตอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งนี้ได้รับรายงานว่า คกก. วัตถุอันตรายซึ่งมีรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานในการประชุมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เห็นชอบให้คงมติเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 ต่อไปที่ให้ใช้แนวทางจำกัดการใช้วัตถุอันตรายพาราควอต โดยมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรเร่งออกประกาศควบคุมการนำเข้า การใช้ และการจำหน่าย จัดทำแผนปฏิบัติการขยายการทำการเกษตรที่ดีที่เหมาะสม และ/หรือเกษตรอินทรีย์ให้ครอบคลุมทั้งประเทศภายใน 2 ปี และให้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ หานวัตกรรมในการกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชให้ได้ภายใน 2 ปี เพื่อให้เกษตรกรปรับตัวลด ละ เลิกใช้วัตถุอันตรายดังกล่าว

กระทรวงเกษตรฯไม่สามารถยกเลิกหรือสั่งแบนการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดด้วยตนเอง ต้องให้มติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายสั่งก่อน กระทรวงเกษตรฯจึงจะสั่งห้ามนำเข้าได้มิฉะนั้น ก็จะถูกฟ้องได้เช่นกันจึงขอให้ผู้คัดค้านได้ศึกษามติทั้งในการประชุมล่าสุดและมติเดิมอย่างละเอียด

ด้านนายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการด่วนที่สุดให้จำกัดการใช้สารเคมี 3 ชนิดทันที โดยเร่งให้ความรู้กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งผู้จำหน่าย เกษตรกร ผู้ประกอบการ จัดตั้งคณะอำนวยการขับเคลื่อนการจำกัดการใช้สารเคมีระดับกระทรวง รายงานผลการดำเนินงานทุก 3 เดือน ให้กรมวิชาการ

จากการสำรวจสต๊อกสาร 3 ชนิดทั้งจาก ผู้นำเข้าและร้านจำหน่าย พบว่า ได้มีการกักตุนสารเคมีเหล่านี้ไว้เป็นจำนวนมาก จึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจนเพื่อยืนยันให้ทุกคนมั่นใจ ในมาตรการลดการนำเข้า รวมทั้งให้เร่งจัดทำแผนขยายทำการเกษตรปลอดภัยตามมาตรฐาน GAP และเกษตรอินทรีย์ให้ครบ 149 ล้านไร่ ภายในเดือน 31 ธันวาคม 2563