ในยุคสมัยที่ผู้หญิงได้สิทธิเท่าเทียมกับชายเกือบทุกด้าน หญิงแกร่งที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารองค์กรขนาดใหญ่มีอยู่ไม่น้อย เสาวภาค พินิจพิชิตกุล หรือ (คุณจุ๋ม) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานยุทธศาสตร์องค์กร ธนาคารกสิกรไทย เป็นอีกบุคคลที่มีประวัติน่าสนใจ เพราะนอกจากเป็นผู้บริหารองค์ขนาดใหญ่แล้ว เธอยังเป็นนักกีฬาสมัครเล่น ประเภทไตรกีฬา ซึ่งมองหาคนไทยได้น้อยรายมากๆที่จะเล่นกีฬาประเภทนี้ เพราะทั้งเหนื่อยทั้งอดทน
เสาวภาค พินิจพิชิตกุล หรือ (คุณจุ๋ม)
ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานยุทธศาสตร์องค์กร ธนาคารกสิกรไทย
เธอคนนี้มีดีกรีนักเรียนนอก จบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมอุตสาหการจากรั้วจามจุรี ก่อนต่อปริญญาโทด้าน Engineer Management จาก Syracuse University ประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มงานครั้งแรกที่บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ ณ รัฐฟลอริด้า หลังเรียนจบไม่กี่เดือน ดูแลงานด้าน Product Planning Quality Assurance ประมาณ 4-5 ปี จนสิ้นปี 2543 ก็กลับไทย ก่อนมาเริ่มงานที่ธนาคารกสิกรไทย เมื่อเดือนเมษายน ปี 2544
เริ่มงานที่ธนาคารกสิกรไทย ดูแลโครงการยุทธศาสตร์ ด้านการบริหารจัดการโครงการ (Project Management) ธนาคาร ได้มอบหมายให้ดูแลบริษัทลูกในกลุ่มธุรกิจการเงินได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์, บริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวมกสิกรไทย, บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ,ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ,บริษัท ลิสซิ่ง กสิกรไทย ,บริษัทแฟคเตอรี แอนด์ อีควิปเมนท์ กสิกรไทย ทั้งหมดด้วยทีมงานเพียง 4 คนเท่านั้น
โดยลักษณะงานต้องวางแผนกลยุทธ์ให้กับบริษัทย่อย โดยประสานให้สอดคล้องกับนโยบายของธนาคาร ซึ่งอันดับแรกคุณจุ๋มได้ใช้หลักการทำงานเสอดคล้องกับการใช้ชีวิต คือการตั้งใจจริงและมุ่งมั่นอย่างที่สุด โดยการวางเป้าหมายแล้วเดินไปให้ถึง ต้องรู้ลึกรู้จริงในสิ่งที่จะทำ รู้จักคู่แข่งเป็นอย่างดี รวมถึงการศึกษาทิศทางการดำเนินงานขององค์กร เพื่อการสื่อสารให้เข้าใจตรงกันกับบริษัทที่ดูแลอยู่ แต่ทั้งหมดต้องอยู่ในกรอบของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย ในการทำงานนั้นจะต้องประสานงานในแบบผสมผสานกับหน่วยงานภายในที่จัดการด้านนี้โดยตรง และกระจายงานเพื่อทำงานร่วมกับบริษัทในเครืออีกครั้งหนึ่ง
ที่สำคัญคือภาพลักษณ์และกลยุทธ์ของกสิกรไทย ที่ บัณฑูร ล่ำซำ ปลูกฝังมาตลอด คือ “การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” จากแนวคิดวิสัยทัศน์องค์กรที่ว่า “การเป็นสถานบันการเงินที่มั่นคง มีการเติบโตที่ยั่งยืน” ดังนั้นต้องเน้นการบริการลูกค้าให้ดีที่สุด และภาพลักษณ์
อีกเรื่องที่องค์กรทำมาตลอด นั่นคือการริเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Innovation) ให้ตอบโจทย์ลูกค้า ให้สมกับสโลแกนที่ว่า “บริการทุกระดับประทับใจ” ซึ่งนอกจากการทำให้ลูกค้ามีความสุขแล้ว ในองค์กรพนักงานต้องมีความสุขด้วยเป็นสิ่งที่เน้นย้ำมาก เพื่อให้พนักงานรักองค์กร ดังนั้นคนของเราต้องมีความสุขและรู้สึกยินดีที่จะให้บริการก่อน
“แต่สิ่งที่ยากที่สุด ไม่พ้นการประสานงานกับทุกฝ่าย เพราะแต่ละคนก็มีแนวความคิดของตัวเอง สิ่งหนึ่งที่ได้มา คือการ Learning by Doing จากการสอบถามจากผู้ใหญ่ ต้องใช้ศิลปะในการพูดเป็นสื่อตัวสำคัญ เพราะในตำแหน่งที่รับผิดชอบอยู่นั้นต้องติดต่อกับทั้งกับผู้ที่อาวุโสกว่า เพื่อนร่วมงานระดับเดียวกัน และเพื่อนที่อ่อนกว่า เพราะบางคนอาจมีมุมมองในมุมของตนเองมากเกินไปดังนั้นเราต้องหาวิธีการพูด ในบุคคลแต่ละระดับด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป “ เสาวภาค กล่าว
นอกจากนี้ในฐานะนักกีฬาตัวยง เธอยังเป็นนักกีฬาไตรกีฬา ที่ประกอบด้วย ว่ายน้ำ การวิ่ง และปั่นจักรยาน คุณจุ๋มจะจะเน้นวางแผนซ้อมกีฬาทั้ง 3 ชนิดให้เท่าๆกันในแต่ละสัปดาห์ ในวันธรรมดาช่วงเช้าก็จะวิ่ง อละอาจเพิ่มปั่นจักรยายในตอนเย็น แต่ในวันหยุดก็จะเล่นกีฬาหนักมากจครบทั้ง 3 ประเภท และเล่นอย่างจริงจังมาได้ 1 ปีกว่าแล้ว หลังจากที่เล่นไตรกีฬามาสักพักก็เริ่มลงแข่ง รายการล่าสุดที่ลงแข่งก็ ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2556 ส่วนรางวัลล่าสุดที่ได้คือ ได้จากการแข่งขันกรุงเทพมาราธอน ได้ที่ 5 ในระดับรุ่นอายุที่เท่ากัน
หลังจากนี้เป้าหมายคืออยากเห็นพัฒนาการด้านกีฬาของตัวเอง เช่น อาจวิ่งในระยะเดิมแต่ทำเวลาได้ดีขึ้น ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้ทั้งงาน และกีฬาสำเร็จ ก็คือการคิดบวกให้รางวัลง่ายๆกับตัวเองเมื่อทำสำเร็จ ส่วนเป้าหมายของการลงแข่งไตรกีฬาในปี 2557 ต้องการพัฒนาตัวเองไปเล่นในระดับ Half Ironman ให้ได้ คือ ว่ายน้ำระยะทาง 1.9กม. ขี่จักรยาน 90กม. และวิ่ง 21กม.
ความสำเร็จของเธอคนนี้ นอกจากจะเป็นผู้บริหารและนักกีฬาแล้ว คุณจุ๋มยังเป็นเจ้าของธุรกิจร้านขนมย่านราชพฤกษ์ด้วย แม้ว่าแต่ละงานที่เธอทำจะดูแตกต่างสุดขั้ว แต่คุณจุ๋มถือว่าทั้งหมดคือการหาประสบการณ์ให้ตัวเอง ตามหลักการดำเนินชีวิตที่ว่า Work Life Balance เธอคิดว่าทุกกิจกรรม ที่เธอทำคือการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่านั่นเอง