EXIM BANK

EXIM BANK พัฒนาผลิตภัณฑ์ลดต้นทุนผู้ส่งออก สร้างเศรษฐกิจ BCG และพลังขับเคลื่อนโลกสะอาดอย่างยั่งยืน

ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การระบาดของโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำอย่าง โควิด-19 การแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดภัยธรรมชาติร้ายแรง และการลดลงของทรัพยากร อันเป็นผลมาจากปัญหาภาวะโลกร้อน  ทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจในรูปแบบเดิมๆ ไม่อาจตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้ จึงเกิด “วาระเร่งด่วน”  นานาชาติหันมาเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย “โมเดลเศรษฐกิจ BCG”  (Bio-Circular-Green…

Home / NEWS / EXIM BANK พัฒนาผลิตภัณฑ์ลดต้นทุนผู้ส่งออก สร้างเศรษฐกิจ BCG และพลังขับเคลื่อนโลกสะอาดอย่างยั่งยืน

ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การระบาดของโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำอย่าง โควิด-19 การแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดภัยธรรมชาติร้ายแรง และการลดลงของทรัพยากร อันเป็นผลมาจากปัญหาภาวะโลกร้อน  ทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจในรูปแบบเดิมๆ ไม่อาจตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้ จึงเกิด “วาระเร่งด่วน”  นานาชาติหันมาเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย “โมเดลเศรษฐกิจ BCG”  (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก

โมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม ที่จะพัฒนา 3 เศรษฐกิจไปพร้อมกัน ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเน้นการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่จะนำวัสดุต่าง ๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และทั้ง 2 เศรษฐกิจนี้อยู่ภายใต้เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) คือการทำธุรกิจที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า  เศรษฐกิจ BCG และเศรษฐกิจสีเขียวเป็นเมกะเทรนด์ที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญ กระแสการค้าและการลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว กำลังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในต่างประเทศ  และหลายประเทศเริ่มใช้มาตรการเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นข้ออ้างในการกีดกันทางการค้าได้อย่างไม่ผิดกติกา  เช่น องค์กรการค้าโลก (WTO)  มีข้อยกเว้นให้สมาชิกจำกัดการนำเข้าเพื่อสิ่งแวดล้อมได้ แต่ต้องสมเหตุสมผล เป็นต้น 

ดังนั้น การให้ความสำคัญกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG จึงไม่ใช่เรื่องที่จะแค่พูดแล้วก็ผ่านเลยไป แต่จะต้องนำมาปฏิบัติอย่างจริงจังให้เห็นผลเป็นรูปธรรม   

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG  เนื่องจากเล็งเห็นว่าจะสามารถสร้างการพัฒนาอย่างสมดุลมากขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และยังเปลี่ยนแรงกดดันหรือข้อจำกัดเป็นพลังในการขับเคลื่อน เพื่อให้เกิดการเร่งรัดพัฒนาความสามารถในการฟื้นตัว และการสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาอันรวดเร็ว โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมในโมเดลเศรษฐกิจ BCG จากเดิม 21% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เป็น 24% ภายในปี 2570

ดร.รักษ์ กล่าวว่า  ธนาคารได้เข้าไปสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่ยั่งยืนในรูปแบบการทำงานแบบนวัตกรรม เช่น การจับมือกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) สนับสนุนโครงการเรือไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์ของเรือด่วนเจ้าพระยา โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นและเมียนมา โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในญี่ปุ่น โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาการใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ เศษวัสดุการเกษตร ขยะเหลือทิ้ง 

ที่ผ่านมา EXIM BANK ให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ธุรกิจ BCG ไปแล้วประมาณ 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคารหรือประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการสนับสนุนสินเชื่อโครงการพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 3.7 แสนล้านบาท ลดการปล่อยคาร์บอนในอากาศมากกว่า 100 ล้านตัน EXIM BANK ตั้งเป้าหมายจะขยายสินเชื่อที่ให้แก่ธุรกิจ BCG เป็น 100,000 ล้านบาทภายในปี 2570 เพื่อร่วมกับประชาคมโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์   

“1 ปีที่ผ่านมา ผมปักธงให้ EXIM BANK  นำเอาจิตวิญญาณการเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย อันเป็นพันธกิจแรกเริ่มของการตั้งธนาคารแห่งนี้ เพื่อมารับความเสี่ยงมากกว่าธนาคารพาณิชย์  ให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่  สนับสนุนโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมสู่อนาคตหนุนทุนไทยไปต่างแดน และช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูธุรกิจไทย โดยทำหน้าที่ เครื่องยนต์รุ่นใหม่  ผลักดันการพัฒนาประเทศไทยในมิติเศรษฐกิจ เชื่อมโยงกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยนโยบาย Dual-track Policy ชูบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทยควบคู่กับการเป็นศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศให้แก่ SMEs ตลอดจนดำเนินภารกิจ ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำตลอด Supply Chain” ดร.รักษ์ กล่าว

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า  การเดินทางของ EXIM BANK ในบทบาท ‘ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย’  มุ่งเน้นลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เราเริ่มต้นจากการสร้างผู้ส่งออก นักลงทุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ ไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน  รวมทั้งการขยายโอกาสของธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ (New Frontiers) ภายใต้โมเดลที่วันนี้เรียกว่า BCG ทำให้เกิดไฟฟ้า ประปา พลังงานหมุนเวียนรองรับความต้องการอุปโภคบริโภคในครัวเรือนและป้อนภาคอุตสาหกรรมในประเทศต่าง ๆ สร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานราก และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและประชาคมโลกโดยรวม