พรรคไทยรักษาชาติ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เลือกตั้ง62

เลือกตั้ง62 : ด่วน!!ศาลฯไม่รับฟ้อง คดีเรืองไกรขอให้เพิกถอนมติ กกต.ยื่นยุบไทยรักษาชาติ

ศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องคดีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฟ้องขอให้เพิกถอนมติของ กกต. ที่ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความคดีหมายเลขดำที่ 351/2562 คดีหมายเลขแดงที่ 204/2562 ซึ่งนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะเป็นผู้ฟ้องคดี คณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และนายทะเบียนพรรคการเมือง…

Home / NEWS / เลือกตั้ง62 : ด่วน!!ศาลฯไม่รับฟ้อง คดีเรืองไกรขอให้เพิกถอนมติ กกต.ยื่นยุบไทยรักษาชาติ

ศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องคดีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฟ้องขอให้เพิกถอนมติของ กกต. ที่ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ

ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความคดีหมายเลขดำที่ 351/2562 คดีหมายเลขแดงที่ 204/2562 ซึ่งนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะเป็นผู้ฟ้องคดี คณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และนายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2

คดีนี้ผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องโดยมีคำขอให้ศาลปกครองพิพากษาเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ในการประชุมครั้งที่ 18/2562 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ

ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (นายทะเบียนพรรคการเมือง) จะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 รวมทั้งการมีมติในการประชุมครั้งที่ 18/2562 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ เป็นการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 อันถือเป็นการใช้อำนาจทางปกครองก็ตาม

แต่โดยที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมือง หากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ (1) กระทำการล้มล้าง การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

(2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (3) กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 20 วรรคสอง มาตรา 28 มาตรา 30 มาตรา 36 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 72 หรือมาตรา 74 (4) มีเหตุอันจะต้องยุบพรรคการเมืองตามที่มีกฎหมายกำหนด

กรณี จึงถือว่า การพิจารณายุบพรรคการเมืองมีกฎหมายเฉพาะกำหนดให้อยู่ในอำนาจการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองซึ่งเป็นมูลเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ จึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ศาลปกครองจึงไม่อาจรับคำฟ้องคดีนี้ไว้พิจารณาได้

ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ