การรุกราน ข่าวต่างประเทศ ยูเครน รัสเซีย สงคราม สหรัฐอเมริกา

ผู้นำ ‘ยูเครน-สหรัฐฯ’ ต่อสายหารือประเด็นความมั่นคง

เซเลนสกี และโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สนทนาทางโทรศัพท์เพื่อหารือสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่รอบยูเครน

Home / NEWS / ผู้นำ ‘ยูเครน-สหรัฐฯ’ ต่อสายหารือประเด็นความมั่นคง

ประเด็นน่าสนใจ

  • เซเลนสกี และโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สนทนาทางโทรศัพท์เพื่อหารือสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่รอบยูเครน
  • ผู้นำประเทศทั้งสองแลกเปลี่ยนข้อมูลและหารือวิธีการลดระดับความรุนแรง
  • ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ยูเครนและประเทศตะวันตกบางแห่งกล่าวหารัสเซียว่าสั่งสมกำลังทหารใกล้ชายแดนยูเครนและอาจมีเจตนา “รุกราน”

ทีมงานฝ่ายสื่อสารมวลชนของโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยว่าเซเลนสกี และโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สนทนาทางโทรศัพท์เพื่อหารือสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่รอบยูเครน

ผู้นำประเทศทั้งสองแลกเปลี่ยนข้อมูลและหารือวิธีการลดระดับความรุนแรง รวมถึงพูดคุยประเด็นการเพิ่มเสถียรภาพทางการเงินและพลังงานของยูเครน โดยเซเลนสกีย้ำว่ายูเครนเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดในปัจจุบัน และพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ขณะเดียวกันกล่าวขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุน ซึ่งช่วยเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพยูเครน

เซเลนสกียังเชิญไบเดนเดินทางเยือนยูเครนในเร็ววัน ซึ่งจะมีความสำคัญต่อการรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์ รวมถึงเน้นย้ำความสำคัญของการให้หลักประกันความมั่นคงอันมีประสิทธิภาพแก่ยูเครน โดยยูเครนพร้อมหารือในรูปแบบต่าง ๆ

แถลงการณ์จากทำเนียบขาวระบุว่าไบเดนชี้แจงระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ว่าสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรและหุ้นส่วน จะตอบสนองต่อการรุกรานยูเครนเพิ่มเติมของรัสเซียอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด โดยผู้นำประเทศทั้งสองเห็นพ้องถึงความสำคัญของการดำเนินงานทางการทูตและการป้องปรามเพื่อตอบโต้การสั่งสมกำลังทหารของรัสเซียบริเวณชายแดนยูเครน

อนึ่ง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ยูเครนและประเทศตะวันตกบางแห่งกล่าวหารัสเซียว่าสั่งสมกำลังทหารใกล้ชายแดนยูเครนและอาจมีเจตนา “รุกราน” ทว่ารัสเซียปฏิเสธและชี้ว่ามีสิทธิระดมกำลังทหารภายในพรมแดนของตนเองเพื่อการปกป้องดินแดน เนื่องจากองค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ทำกิจกรรมอันเป็นภัยคุกคามต่อพรมแดนของรัสเซีย

ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สหรัฐฯ และบางประเทศได้แนะนำพลเมืองของตนเองเดินทางออกจากยูเครน เนื่องด้วยภัยคุกคามจากปฏิบัติการทางทหารที่เพิ่มขึ้น

ที่มา : Xinhua