ข่าวภูมิภาค ฆ่าคนตาย ฆาตกรรม ฆ่าเจ้าของรีสอร์ท

คนร้ายใช้ค้อนทุบหัวเจ้าของรีสอร์ทเสียชีวิต ก่อนหลบหนีลอยนวล

เจ้าของรีสอร์ทในตัวเมืองจันทบุรี ถูกคนร้ายใช้ค้อนทุบศีรษะจนเสียชีวิตคาที่พัก ก่อนหลบหนีไป แม่บ้านมาเปิดประตูห้องตอนสาย พบนอนเป็นศพอยู่บนที่นอน แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ วันนี้ ( 7 ม.ค.62 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรม ภายในห้องนอนของรีสอท…

Home / NEWS / คนร้ายใช้ค้อนทุบหัวเจ้าของรีสอร์ทเสียชีวิต ก่อนหลบหนีลอยนวล

เจ้าของรีสอร์ทในตัวเมืองจันทบุรี ถูกคนร้ายใช้ค้อนทุบศีรษะจนเสียชีวิตคาที่พัก ก่อนหลบหนีไป แม่บ้านมาเปิดประตูห้องตอนสาย พบนอนเป็นศพอยู่บนที่นอน แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

วันนี้ ( 7 ม.ค.62 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรม ภายในห้องนอนของรีสอท พื้นที่หมู่2 ต.หนองบัว อ.เมือง จ .จันทบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นรีสอร์ทที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเช่าพักค้างคืน ภายในห้องนอนพบผู้เสียชีวิต สภาพบริเวณใบหน้าถูกตีด้วยของแข็ง จนใบหน้ายุบและมีเลือดกระจายอยู่ทั่วห้องนอน และยังพบหัวค้อนตกอยู่ภายในห้อง จากการสอบถาม นางสาว มลฤดี สีบัว อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นแม่บ้านทำความสะอาดภายในรีสอร์ท ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นแม่บ้านคอยดูแล ทำความสะอาดภายในรีสอร์ท และที่ผ่านมาตนได้หยุดงานไป 5 วัน และได้กลับมาทำงานเมื่อตอนเช้า

โดยเมื่อเวลา 10.00 น. ตนได้เปิดประตูห้องนอนของ นายสิงห์เดช โพธิ์โชต (เปา) ซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ท เพื่อจะเก็บเสื้อผ้าไปซัก เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป จึงพบว่า นายเปา ได้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน และมีเลือดกระจายเต็มพื้นห้อง จึงรีบวิ่งมาบอกกับพ่อของผู้เสียชีวิต จากนั้นจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถามผู้เป็นพ่อได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ทำรีสอร์ท และให้ลูกชายคอยช่วยดูแล แต่ลูกชายมักจะมีผู้หญิงคบหาหลายคน จนคนสุดท้ายได้คบหาและอยู่กินกันมาได้ 4 เดือน และเมื่อตอนตี 3 กว่าๆ ตนได้ตื่นมาและมานั่งกินกาแฟอยู่หน้ารีสอท กระทั่งเวลา ตี 4 กว่าๆ เห็นผู้ชายได้เดินออกมาจากข้างบ้านของลูกชายแล้วขี่จักยานยนต์ออกไป แต่ตนคิดว่าเป็นเป็นแขกที่มาพัก

ต่อมาสักพักก็เห็นผู้หญิงได้ขี่จักยานยนต์อีกคันออกทางด้านหน้าบ้านของลูกชาย จนกระทั่งแม่บ้านได้วิ่งมาบอกจึงรู้ว่าลูกชายถูกฆาตกรรมเสียชีวิต จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายห้องนอนพบว่า ผู้เสียชีวิตถูกค้อนตีที่บริเวณใบหน้าและยังมีทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตหายไป ซึ่งประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองอีก 3 องค์ และ อาวุธปืนที่ผู้เสียชีวิตใช้ติดตัวหายไป 1 กระบอก อีกทั้งเงินสดอีกจำนวนนึง ทางเจ้าตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดและจะเร่งติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป