ประเด็นน่าสนใจ
- กระทรวงสาธารณสุข เผย สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศแนวโน้มยังทรงตัว บางพื้นที่ยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน
- บางพื้นที่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น เตรียมเปิดกิจการ กิจกรรม เปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยว
- ย้ำทุกฝ่ายต้องเข้ม 4 มาตรการ เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติแบบวิถีใหม่
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ภายหลังบางพื้นที่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น พบผู้ติดเชื้อประปรายและสามารถควบคุมได้ รัฐบาลจึงมีแนวทางที่จะเปิดกิจการ กิจกรรม และเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ในชุมชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศมากขึ้น
โดยการดำเนินกิจการ กิจกรรมต่างๆ และการเปิดเมืองให้ปลอดภัยและยั่งยืน ทุกคน ทุกฝ่าย ต้องตระหนักและเคร่งครัดใน 4 มาตรการสำคัญคือ
- 1.การฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายและครอบคลุม ซึ่งขณะนี้ได้จัดหาวัคซีนไว้เพียงพอที่จะให้กับประชาชนตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป
- 2.การป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) โดยคิดไว้เสมอว่าทุกคนอาจเป็นผู้ติดเชื้อแฝง และป้องกันตนเองอย่างเข้มงวดกับทุกคน
- 3.การใช้ชุดตรวจ ATK คัดกรอง เพื่อให้ผลเร็ว เข้าสู่ระบบรักษารวดเร็ว ลดการแพร่เชื้อ
- 4.การดำเนินการตามแนวทาง COVID Free Setting ซึ่งองค์กร สถานประกอบการต่าง ๆ ต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง
ซึ่งหากดำเนินการได้ครบถ้วนทั้ง 4 มาตรการ มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด 19 ได้ และประชาชนจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติแบบวิถีใหม่
ทั้งนี้ จากการนำร่องเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวใน 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) พังงา (เขาหลัก เกาะยาว) กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก) ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่กำหนด ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างดี สามารถเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่น ๆ ที่อยู่ในแผนจะเปิดเพิ่ม
โดยต้องจัดตั้งศูนย์บัญชาการเพื่อติดตามเฝ้าระวังและควบคุมโรค เข้มงวดการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และมาตรการ Bubble and Seal ผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มตามเกณฑ์ และมีผลการตรวจ RT-PCR ไม่พบเชื้อ ภายใน 72 ชม. จะลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน แต่หากไม่ได้ฉีดวัคซีน จะลดวันกักตัวจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน ระหว่างอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว จะต้องตรวจ RT-PCR /ATK ตามกำหนด ส่วนประชาชนในพื้นที่ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 80%