ทนาย-หมอปลา ร้องดีเอสไอ 2 เคส กรณี ‘วัดท่าพุราษฎร์บำรุง-เด็กหญิงถูกทหารข่มขืน’

ประเด็นน่าสนใจ

วันนี้ (28 ก.ย. 64) หมอปลา หรือนายจีรพันธ์ เพชรขาว พร้อมด้วยทนายเกิดผล แก้วเกิด, ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ และ ทนายโนบิตะ หรือนายกฤษฎา โลหิตดี ได้เดินทางมายื่นหนังสือให้ตรวจสอบและร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)ถึง 2 เรื่อง โดยขอให้ตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในขบวนการส่งผู้ป่วยมาบำบัด ที่ศูนย์บำบัดวัดท่าพุราษฎร์บำรุง และร้องเรียนกรณี เด็กหญิงถูกพลทหารข่มขืน แต่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ไม่รับแจ้งความด้วย

สำหรับคดีพลทหารข่มขืนเด็ก นางไพบูลย์ คุณยายของเด็กหญิงวัย 11 ปี ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น. ตนได้ขอให้หลานสาวไปซื้อน้ำแข็ง ซึ่งมีพลทหารซึ่งรู้จักกับหลานผ่านทางอินเตอร์เน็ตอาสาพาไป ต่อมาหลานสาวหายไปประมาณ 3 ชม. ตนเห็นว่าผิดปกติจึงได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่

แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความ ระบุว่ายังหายไปไม่ถึง 24 ชม. จนวันถัดมา (23 ก.ย. 64) เวลาประมาณ 09.00 น. หลานสาวกลับมาในสภาพอิดโรย จึงได้สอบถามหลาน แต่หลานปฎิเสธไม่ตอบอะไร ตนได้พาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย พบว่ามีร่องรอยของการมีเพศสัมพันธ์ แพทย์แจ้งว่าจะส่งรายละเอียดให้ตำรวจภายหลัง แต่เวลาผ่านไปหลายวันกลับไม่คืบหน้า โดยในวันนี้ขณะที่กำลังเดินทางมาร้อง DSI เจ้าหน้าที่เพิ่งติดต่อว่าจะออกใบแจ้งความให้วันนี้ด้วย ซึ่งทนายไพศาลก็ได้ระบุว่า คดีนี้มีคนที่เรียกตัวเองว่า ผู้กอง มาข่มขู่ผู้เสียหาย ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงพามาร้อง DSI ในวันนี้

ส่วนคดีขบวนการศูนย์บำบัดวัดท่าพุราษฎร์บำรุง หมอปลาและทีมทนาย ได้นำหลักฐานประกอบด้วยสลิปโอนเงิน คำให้การของผู้เสียหาย และภาพถ่าย เพื่อยืนต่อ DSI กองคดีการค้ามนุษย์ ให้ตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่วัด ตำรวจ จิตอาสา เพื่อกล่าวโทษกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

โดยทนายไพศาล ได้เปิดเผยว่า การยื่นหนังสือให้หน่วยงานรัฐตรวจสอบทำไปเพื่อความยุติธรรมกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ได้ต้องการกล่าวหาเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ส่วนหมอปลา ระบุว่าไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เจตนาตนคือต้องการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน แต่กลับถูกคนบางกลุ่มใช้กฎหมายเล่นงาน จะฟ้องกลับหรือไม่ต้องรอดู

ภาพ : กฤติกร จิตติอร่ามกูล