ประเด็นสำคัญ
- การระบาดของโควิด-19 ในสิงคโปร์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และสูงกว่าในระลอกแรกเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ทางการสิงคโปร์ต้องยกระดับมาตรการเพิ่มสูงขึ้น
- ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่บ้าน, จำกัดการรวมกลุ่ม, เลี่ยงศาสนกิจ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ แม้ว่าจะได้รับวัคซีนครบแล้วก็ตาม ฯลฯ
- ซึ่งคาดว่า หากไม่ยกระดับมาตรการ จะทำให้มีผู้ป่วยสูงกว่าวันละ 3 พันราย แม้ว่าจะมีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วมากกว่า 82% ก็ตาม
…
จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศสิงคโปร์ มีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยยอดล่าสุด สิงคโปร์พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 1,443 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,424 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย
มีผู้ป่วยอาการหนักที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 1,142 ราย โดยในจำนวนนี้มี 165 ราย ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และอีก 27 ราย อยู่ในห้อง ICU ซึ่งผู้ป่วยอาการหนักส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี
ซึ่งจากข้อมูลผู้ป่วยจำนวน 326 ราย ที่จำเป็นต้องให้ออกซิเจนนั้น พบว่า มี 52.9% เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว และส่วนที่เหลืออีก 47.1% เป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน หรือเคยได้รับมาเพียง 1 เข็ม
ฉีดวัคซีนแล้ว กว่า 80%
กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์รายงานว่า ในขณะนี้ มีประชากรชาวสิงคโปร์ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วจำนวนกว่า 82% และมีประชากรราว 87% ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม และยังคงเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
โดยได้มีการขยายเพิ่มกลุ่มอายุ 50-59 ปี ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มนานเกิน 6 เดือนแล้ว เข้ารับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อป้องกันการระบาดในครั้งนี้ด้วย
ยกระดับมาตรการป้องกันอีกครั้ง
หลังจากสถานการณ์การระบาดกลับมาเพิ่มสูงขึ้น และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มากกว่าการระบาดในระลอกแรกเมื่อช่วงเดือน เมษายน 2563 ทำให้สิงคโปร์ต้องกลับมาพิจารณาการยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 อีกครั้ง เนื่องจากคาดว่า ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนมาตรการ จะทำให้สิงคโปร์มีผู้ป่วยเพิ่มสูงถึงวันละกว่า 3 พันราย และจะทำให้ระบบสาธารณสุขของสิงคโปร์เผชิญกับปัญหาเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายลง ทำให้ทางการต้องสั่งเพิ่มมาตรการ โดยเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ( 27 ก.ย.) ไปจนถึงวันที่ 24 ต.ค. 2564 ตามมาตรการดังต่อไปนี้
ลดการรวมกลุ่ม
โดยทางการสิงคโปร์ได้ได้สั่งลดการรวมตัวจาก 5 คนเป็นเหลือเพียง 2 คน ยกเว้นในกรณีที่เป็นบุคคลในครบอครัวเดียวกัน เช่น ปู่ย่า-ตายาย ที่มีความจำเป็นต้องดูแลหลาน
นอกจากนี้ การรวมตัวรับประทานอาหารภายนอกนั้น ผู้ที่นั่งร่วมกันจะต้องได้รับวัคซีนแล้วทั้งสองคน หากไม่ได้รับวัคซีนจะต้องมีผลตรวจยืนยันที่ไม่มีเชื้อโควิด-19
ในขณะเดียวการ การโดยสารรถแท็กซี่ หรือรถยนต์ส่วนบุคคล ถูกจำกัดผู้โดยสารภายในรถเพียง 2 คนเท่านั้น
ให้ทำงานที่บ้าน
สำหรับบริษัท/สถานประกอบการที่สามารถให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ ก็ให้มีการปรับชั่วโมง – เวลาการทำงาน รวมถึงการทำงานที่บ้านแทนการมายังสถานที่ประกอบการ ซึ่งหากผู้ที่ไม่สามารถทำงานที่บ้านได้ จำเป็นจะต้องมีผลการตรวจ ATK ว่าไม่พบเชื้อ และมีการตรวจหาเชื้อในทุกสัปดาห์
นอกจากนี้ ยังให้เน้นการทำงานในจุดเดียว เลี่ยงการรวมกลุ่ม หรือการจัดกิจกรรมกลุ่ม หรือมีการข้ามแผนก เพื่อลดการสัมผัส
เรียนออนไลน์ในกลุ่มประถม-มัธยม
กระทรวงศึกษาฯ ของสิงคโปร์ประกาศให้ เริ่มการเรียนออนไลน์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. (วันนี้เป็นต้นไป) จนถึงวันที่ 6 ต.ค.
เลี่ยงการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางศาสนา
ทางการสิงคโปร์ได้ขอให้ ผู้สูงอายุตั้งแต่60 ปีขึ้นไป เลี่ยงการเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา แม้ว่าจะได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้วกตาม โดยมีผลตั้งแต่ 27 ก.ย. – 24 ต.ค. นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีด้วย
…
ซึ่งจากมาตรการที่เกิดขึ้นนั้น ทางการสิงคโปร์ได้เตรียมเงินช่วยเหลือภาคธุรกิจที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเพิ่มเติม เพื่อเป็นการช่วยเหลือและเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการยกระดับมาตรการเหล่านี้