ตำรวจเมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่กวาดล้างขอทานทั่วเมืองพัทยาจับกุมได้ 6 ราย เด็กเล็กอีก 8 ราย
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 9 ม.ค. 62 ร.ต.อ.ชัยณรงค์ ไชยอินทร์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นางมยุรี ดำเนินผล ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จ.ชลบุรี บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา นำกำลังร่วมกันตรวจสอบและจับกุม ผู้ลักลอบพาเด็กออกมานั่งขอทานตามริมถนน ที่มีนักท่องเที่ยวสัญจรไปมาจำนวนมากทั่วเมืองพัทยา สามารถควบคุมผู้กระทำผิดได้ทั้งสิ้น 6 ราย เด็กเล็กอีก 8 ราย จึงควบคุมมายัง สภ.เมืองพัทยา
จากกรณีที่มีสมาชิกสังคมออนไลน์ได้โพสต์คลิปวีดีโอ บันทึกภาพหญิงสาว อายุประมาณ 20-25 ปี อุ้มเด็กทารกอายุไม่ถึง 1 เดือน ออกมานั่งริมถนน ทำให้คนที่สัญจรไปมาเกิดความเวทนาสงสาร นำเงินมาใส่ในแก้วให้ แต่เมื่อผู้ถ่ายคลิปเข้าไปพูดคุยจะให้การช่วยเหลือ จะหาที่พัก ส่งกลับบ้าน หางานให้ทำ กลับถูกปฏิเสธ เมื่อสอบถามรายละเอียดที่ไปที่มา หญิงสาวคนดังกล่าวกลับอุ้มลูกเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก
ล่าสุดได้พูดคุยกับผู้โพสต์คลิปวีดีโอดังกล่าวคือน.ส.สุนันทา แสนเทพ อายุ 29 ปี เล่าว่าตนเองเห็นหญิงสาวคนดังกล่าว อุ้มเด็กทารกแรกเกิดมานั่งขอทาน บริเวณริมถนนหน้าโรงเรียนเมืองพัทยา 8 ด้วยความสงสาร จึงเข้าไปสอบถามและช่วยเหลือโดยการซื้ออาหาร มอบเงินให้ แต่เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นว่ากำลังบันทึกวีดีโอก็พยายามหลบ และไม่ยอมรับความช่วยเหลือแต่อย่างใด ก็รู้สึกไม่มั่นใจว่าเดือดร้อนจริงหรือไม่ หรือกลัวทางบ้านจะเห็น ก่อนหญิงสาวคนดังกล่าวจะเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว
ด้านเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม จังหวัดชลบุรี ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เมื่อทราบเรื่องก็ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยา และหน่อยงานที่เกี่ยวข้องนำกำลังออกติดตามหญิงสาวในคลิป พร้อมกวาดล้างขอทานที่นั่งตามจุดต่างๆทั่วเมืองพัทยา แต่ไม่พบหญิงสาวที่ปรากฏในคลิปออกมานั่งในจุดเดิม จากการตรวจสอบยังสามารถควบคุมตัวชาวต่างด้าวเป็นผู้หญิงอุ้มเด็กเล็ก ซึ่งอ้างว่าเป็นลูกแท้ๆ มานั่งขอเงินอยู่ริมฟุตปาธจำนวน 5 ราย และเด็กอีก 8 ราย ซึ่งมีอายุน้อยที่สุดคือ 1 ปี ส่วนอีกรายเป็นผู้ชายแต่ไม่สามารถเช็คประวัติได้
เบื้องต้นได้ทำประวัติตัวบุคคลทั้งหมด แล้วเปรียบเทียบปรับตามข้อหา พ.ร.บ.ขอทาน ซึ่งบุคคลต่างด้าวทั้งหมดจะนำตัวไปตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอ ว่าเป็นมารดา บุตร ที่แท้จริงหรือไม่ หากไม่ใช่ก็จะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ ถ้าเป็นมารดาบุตรที่แท้จริง ก็จะดำเนินคดีในการหลบหนีเข้าเมืองก่อนผลักดันกลับประเทศต่อไป
