ได้ผลตรวจร่างกายเด็กหญิงม.1ถูกข่มขืนจริง ตำรวจจ่อส่งสำนวนศุกร์นี้
วันที่ 9 มกราคม 2562 จากกรณีที่ผู้ปกครองของเด็กหญิงอายุ 12 ปี ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1โรงเรียนวัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท พาลูกสาวเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท โดยแจ้งว่าลูกสาวถูกนายดำรงค์ หรือครูบอล เรืองบุญ อายุ 40 ปี ครูสอนวิชาพละศึกษาของโรงเรียน หลอกพาลูกสาวไปขืนใจล่วงเมิดทางเพศ ถึง 2 ครั้ง
แต่ทางโรงเรียนกลับเพิกเฉย เพราะทำเพียงให้นายดำรงค์มาช่วยราชการทางกองการศึกษา เทศบาลวัดสิงห์หน่วยงานต้นสังกัด จึงต้องการให้ศูนย์ดำรงธรรมช่วยเหลือ เพราะเกรงว่านายดำรงค์จะลอยนวลพ้นผิด
ต่อมาทางเทศบาลตำบลวัดสิงห์ได้สั่งให้นายดำรงค์ไปช่วยราชการที่กองการศึกษาไว้ก่อน และส่งเรื่องให้คณะกรรมการข้าราชการการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดชัยนาทพิจารณาสั่งพักราชการโดยไม่ได้รับเงินเดือน เพื่อให้สะดวกต่อการสอบสวนทางวินัย และเรื่องทางคดีตำรวจ สภ.วัดสิงห์ได้แยกสำนวน 2 ฟ้องเป็น 2 คดี ที่ต่างกรรมต่างวาระ
และต่อมาแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของเราว่า ทางฝ่ายครูพละได้พยายมติดต่อผ่านญาติของตน โดยเสนอให้เงิน 200,000 บาทเพื่อให้จบเรื่อง อีกทั้งบอกกับตาของเด็กหญิงว่า รับเงินไปเถอะจะได้จบๆ กันไป ส่วนเรื่องคดีไม่ต้องห่วง ครูจะวิ่งเต้นทางตำรวจกับอัยการเอง ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก รับเงินไปดีกว่า
ซึ่งแม่ของน้องยืนยันว่า “จะไม่รับเงินจากนายดำรงค์ ครูพละฉาวรายนี้แม้แต่สตางค์แดงเดียว เพราะนายดำรงค์ทำร้ายลูกสาวที่จะเป็นตราบาปไปชั่วชีวิต ถึงครอบครัวของตนจะมีฐานะไม่ดี แต่ก็ยืนยันว่า เงินซื้อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไม่ได้ และที่สำคัญครูไม่ได้มีท่าทีสำนึกต่อความผิดแม้แต่น้อย จึงจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
ล่าสุด พันตำรวจเอกเชษฐชัย เชษฐศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวัดสิงห์ เปิดเผยว่าพนักงานสอบสวนได้รับผลพิสูจน์การตรวจร่างกายคดีที่ 2 ของเด็กหญิง ม.1 อายุ 12 ปีผู้เสียหายแล้ว ซึ่งผลปรากฏว่าพบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศจริง โดยพนักงานสอบสวนนำประกอบสำนวน และรอสรุปตรวจทานเพื่อนำเสนอมายังผู้กำกับการฯ เพื่อลงนาม
และคาดว่าจะสามารถส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมคัดค้านการประกันตัว รวมทั้งหลักฐานทางคดีทั้งหมดให้พนักงานอัยการ ได้ภายในวันศุกร์ที่ 11 มกราคมนี้ และหากสำนวนมีความรัดกุมสมบูรณ์พนักงานอัยการก็จะมีความเห็นสั่งฟ้องน่าจะไม่เกินสัปดาห์หน้า
ด้านคุณแม่ของน้อง ม.1 เมื่อทราบว่าทางตำรวจใกล้สรุปสำนวนคดีแล้วก็บอกกับผู้สื่อข่าวของเราว่ารู้สึกโล่งใจขึ้นมาอีกนิดว่าคินผิดกำลังจะได้รับการลงโทษ ส่วนตัวของน้อง ม.1 ตอนนี้คุณแม่บอกว่าให้หยุกดเรียนอยู่ที่บ้านไปก่อน เพื่อไม่ได้ลูกไปรับรู้เรื่องราวต่างๆ ที่อาจจะกระทบกระเทือนจิตใจ รวมทั้งข่าวสารต่างๆ คุณแม่เองก็ขอให้น้องงดเว้นเพื่อให้ทำใจให้สบายไม่เครียดและคิดมาก
ซึ่งตัวน้องเองก็เข้าใจแม้จะยังมีอาการซึมเศร้าอยู่บ้าง แต่คนในครอบครัวก็ช่วยกันปลอบใจ และดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ติดต่อสอบถามให้คำแนะนำเข้ามาทุกวัน ทำให้วันนี้น้องเริ่มมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น