ประเด็นน่าสนใจ
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงิน 4,254.36 ล้านบาท สำหรับจัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม จำนวน 12 ล้านโดส
- เป็นการรองรับการฉีดวัคซีนสูตรผสม เพิ่มความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
- ชี้การฉีดวัคซีนไขว้ระหว่างวัคซีน Sinovac และ AZ จะสามารถร่นระยะเวลาการฉีดลงได้
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงิน 4,254.36 ล้านบาท สำหรับจัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม จำนวน 12 ล้านโดส เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่ประชาชน ใน 4 กลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
1.กลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง (ปอดอุดกั้น หอบหืด) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรังระยะที่ 5 (ไตวายเรื้อรัง) โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด รังสีบำบัดและภูมิคุ้มกันบำบัด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน (BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 35 น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม)
- ประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป
- เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย เช่น ด่านควบคุมโรคตามชายแดน สถานกักกันโรค ทหาร ตำรวจ เจ้าที่เก็บขยะติดเชื้อเป็นต้น
- ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
การจัดหาวัคซีนซิโนแวคจำนวน 12 ล้านโดสนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชน และเป็นการรองรับการฉีดวัคซีนสูตรผสม เพิ่มความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มวัยแรงงาน 8 ล้านคน และกลุ่มแรงงานต่างด้าว 2 ล้านคน
โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อชะลอไม่ให้เกิดการติดเชื้อและแพร่กระจายในวงกว้าง การฉีดวัคซีนไขว้ระหว่างวัคซีน Sinovac และ AZ จะสามารถร่นระยะเวลาการฉีดลงได้ และยังทำให้เกิดภูมิคุ้มกันในระดับสูง ลดอัตราการป่วย/การเสียชีวิต