ประเด็นสำคัญ
- สหรัฐฯ โจมตีกลุ่ม ISIS-K เป็นครั้งที่ 2 โดยมุ่งเป้าที่รถยนต์ซึ่งระบุว่า เตรียมใช้ในการก่อเหตุครั้งใหม่
- โดยใช้ระเบิด GBU-31 พร้อมเขียนชื่อทหารสหรัฐฯ ที่เสียชีวิตจากการโจมตีเมื่อ 29 ส.ค. ที่ผ่านมาไว้ด้วย
- ผลการโจมตีรถยนต์เป้าหมาย ในพื้นที่ชุมชนทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 9 ราย โดย 6 รายเป็นเด็ก ซึ่งรายงานเบื้องต้นระบุว่า เป็นผลมาจากการระเบิดครั้งที่ 2 ที่น่าจะมาจากวัตถุระเบิดภายในยานพาหนะเป้าหมายระเบิดขึ้น
…
หลังจากที่เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายใกล้กับสนามบินนานาชาติฮามิด คาร์ไซในกรุงคาบูล เมื่อไม่กี่วันก่อน และนำไปสู่การตอบโต้ของสหรัฐฯ ในการส่งอากาศยานไร้คนขับ MQ-9 Reaper เข้าโจมตีเป้าหมายที่ระบุว่า เป็นผู้วางแผนการโจมตีดังกล่าว
ซึ่งวานนี้ ( 29 ส.ค. – เวลาประเทศไทย) ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ของสหรัฐฯ ได้กล่าวระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการโจมตีใหญ่อีกครั้ง ที่สนามบินนานาชาติฮามิด คาร์ไซในกรุงคาบูล ซึ่งอาจจะมีอันตรายอย่างยิ่งในการอพยพคนออกจากอัฟกานิสถาน
ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางกองทัพสหรัฐฯ ได้เปิดการโจมตีครั้งใหม่ โดยการส่งอากาศยานไร้คนขับ เข้าโจมตีรถยนต์คันหนึ่งที่ทางการสหรัฐฯ เชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้ในการขนระเบิดเพื่อเตรียมก่อเหตุครั้งใหม่ ซึ่งในจุดที่มีการโจมตี้นั้นอยู่ในพื้นที่ชุมชนใกล้กับสนามบินนั่นเอง
CENTCOM ออกแถลงการณ์
โดยหลังจากที่มีการโจมตี กองบัญชาการภาคพื้นตะวันออกกลางของสหรัฐฯ หรือ CENTCOM ได้ออกแถลงการเกี่ยวกับการโจมตีที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า
กองทัพสหรัฐฯ ได้โจมตีทางอากาศโดยใช้อากาศยานไร้คนขับในการโจมตียานพาหนะ เพื่อกำจัดภัยคุกคามจากกลุ่ม ISIS-K ที่จะโจมตีสนามบินนานาชาติฮามิด คาร์ไซ โดยการโจมตีที่เกิดขึ้นบรรลุเป้าหมาย และมีการระเบิดครั้งที่ 2 เกิดขึ้นหลังจากการโจมตี ซึ่งคาดว่ามาจากวัตถุระเบิดในยานพาหนะที่บรรทุกมาด้วย และคาดว่า เป็นไปได้ว่าจะมีพลเรือนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีในครั้งนี้ด้วย
ในเวลาต่อมา กองบัญชาการภาคพื้นตะวันออกกลางของสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 โดยยืนยันการเสียชีวิตของพลเรือน ในเหตุการณ์โจมตีครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้น โดยในขณะนี้ยังคงประเมินผลของการโจมตีในการขัดขวางการก่อเหตุของกลุ่ม ISIS-K
โดยกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า การระเบิดที่เกิดขึ้นตามมาหลังการโจมตีนั้นมาจากวัตถุระเบิดจำนวนมากที่อยู่ในยานพาหนะคันดังกล่าว ซึ่งอาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม กองทัพสหรัฐฯ ยังไม่ได้ยืนยันว่า เป็นอะไร และยังคงอยู่ในระหว่างการสืบสวน
ระเบิดโจมตี ISIS-K เขียนชื่อทหารสหรัฐฯ ที่เสียชีวิต
ในขณะเดียวกัน ได้มีการเผยแพร่ภาพของระเบิด GBU-31 ที่ใช้ในการโจมตียานพาหนะของกลุ่ม ISIS-K ที่มีการเขียนชื่อผู้เสียชีวิตในเหตุการโจมตีสนามบินในกรุงคาบูลเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา
โดยในการโจมตีที่เกิดขึ้น ทางกองทัพสหรัฐฯ ได้ใช้ระเบิด GBU-31 ในการโจมตีครั้งนี้ มูลค่าลูกละราว 6 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ
โดยในรายงานล่าสุดระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 9 ราย จากครอบครัวหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับยานพาหนะที่ทางสหรัฐฯ เข้าโจมตี ซึ่งมีเด็กเสียชีวิตจำนวน 6 รายด้วยกัน โดยทั้งหมดคาดว่าเกิดจากการระเบิดครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นจากระเบิดจำนวนมากที่อยู่ในรถยนต์เป้าหมาย
ความเสียหายหลัง ‘สหรัฐฯ’ โจมตีกลุ่มไอซิสในอัฟกานิสถาน เมื่อ 28 ส.ค.
ภาพชาวบ้านในท้องถิ่นจับกลุ่มกันบริเวณจุดที่สหรัฐฯ ทำการโจมตีทางอากาศต่อสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอซิส (ISIS) ในจังหวัดนันกาฮาร์ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน หลังจากที่เมื่อวันเสาร์ (28 ส.ค.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยว่ามีสมาชิกคนสำคัญ 2 รายของกลุ่มไอซิส-เค (ISIS-K) ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอซิส (ISIS) ในอัฟกานิสถาน เสียชีวิตจากเหตุโจมตีด้วยโดรน เมื่อวันศุกร์ (27 ส.ค.)
เหตุโจมตีครั้งนี้มีขึ้นเพื่อตอบโต้เหตุระเบิดฆ่าตัวตายบริเวณด้านนอกสนามบินคาบูล เมื่อวันพฤหัสบดี (26 ส.ค.) ซึ่งส่งผลให้มีทหารสหรัฐฯ 13 นาย และพลเมืองชาวอัฟกานิสถานอีก 170 ราย เสียชีวิต ซึ่งกลุ่มไอซิส-เคออกมาประกาศว่าตนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว
ที่มา
- U.S. Central Command
- สำนักข่าวซินหัว