ธนาธร ปลุกปชช. ร่วมต้านการสืบทอดอำนาจ ย้ำ อนาคตใหม่ถูกยุบ ก็ขอสู่ต่อ

ประเด็นน่าสนใจ

ที่ลานกลางร้านอาหารริมน้ำ ริเวอร์ไซด์ อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งตั้งเป็นศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่จังหวัดนครนายก ได้จัดงานครบรอบ 1 ปีการก่อตั้งศูนย์ เปิดเวทีพบปะพูดคุยร่วมกันระหว่างสมาชิกพรรคในจังหวัดนครนายก

และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมกับทำกิจกรรมร่วมกันในการเดินรณรงค์ให้ข้อมูลแก่ประชาชน เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.รับราชการทหาร ของพรรคอนาคตใหม่ โดยมีหนึ่งในเรื่องสำคัญคือการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร ที่ตลาดโต้รุ่งนครนายก

โดยนายธนาธร กล่าวว่า ในรอบ 1 ปี 2 เดือน กว่าที่ผ่านมาของพรรคอนาคตใหม่ เราได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงใจในการทำการเมืองแบบใหม่ เราใช้นโยบายและวาระที่สำคัญ คือ การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.มาเป็นตัวนำ จนเราได้รับการสนับสนุนจากประชาชนถึง 6.3 ล้านเสียงและได้ ส.ส.ถึง 81 ที่นั่ง

และแม้ในท้ายที่สุดเราจะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ยืนยันอย่างหนักแน่นในการทำตามสัญญาที่เราได้ให้ไว้กับประชาชน อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ภายใต้ข้อมูลที่หนักแน่น ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน

ย้ำ 1 ปี ถูกดูแคลน เยาะเย้ยเสียดสี สารพัด แต่ด้วยกำลังใจที่ประชาชนมอบให้จึงผ่านมาได้

และจนถึงวันนี้ เราได้นำเสนอร่าง พ.ร.บ.เพื่อผลักดันนโยบายของเราเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ไปแล้วสามฉบับ คือร่างยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช.27 ฉบับ, กฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงาน, และ พ.ร.บ.รับราชการทหาร ซึ่งมีเรื่องของการยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ

ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา พวกเราเดินทางมาถึงทุกวันนี้ มีทั้งคำเยาะเย้ยเสียดสี ดูถูกดูแคลนจากฝ่ายตรงข้าม แต่ก็ยังมีกำลังใจ ดอกไม้ รอยยิ้ม การสนับสนุนต่างๆ กำลังใจเป็นสิ่งที่ค้ำจุน ทำให้พวกเราในพรรคอนาคตใหม่ทุกคนยืนหยัดและก้าวเดินไปอย่างมั่นคง ต้องขอขอบคุณอีกครั้งที่ร่วมสนับสนุนพวกเรามา

นายธนาธร กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ จากการลงพื้นทั่วประเทศ ตนได้เห็นว่าความเดือดร้อนของประชาชนนั้นแสนสาหัสทุกหย่อมหญ้า แต่ทุกคนตกอยู่ภายใต้ความกลัว สิ่งที่เขาต้องการคือทำให้ประชาชนกลัวอำนาจของพวกเขา ทุกคนกลัวไปหมด ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นทวงสิทธิเสรีภาพกลับคืนมา

ปี 2020 ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องทวงประชาธิปไตย นิติรัฐนิติธรรมคืนมาสู่สังคม

แต่นี่คือสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงร่วมกันในปี 2020 เพราะถ้าพวกเราไม่กลัว พร้อมจิตพร้อมใจกันลุกขึ้นมาส่งเสียงดังๆว่า พอได้แล้ว เอาประชาธิปไตย นิติรัฐนิติธรรมคืนมาสู่สังคม ถ้าพวกเราไม่กลัวแล้วลุกขึ้นมายืนตรงพร้อมกัน พวกเขาจะสืบทอดอำนาจไม่ได้เลย

แต่เรื่องนี้พรรคอนาคตใหม่คนเดียวทำไม่ได้ ตนคนเดียวทำไม่ได้ จะทำได้เงื่อนไขเดียวคือคนไทยลุกขึ้นมาร่วมกันทั้งหมด ถ้าเราไม่สู้เพื่อเราเอง ไม่สู้เพื่ออนาคตลูกหลานเราเอง ก็คงจะไม่มีใครที่จะมาทำให้เราได้อีกแล้ว

ทั้งนี้ในช่วงหนึ่ง ในนายธนาธร ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว หลังถูกถามถึงกรณี นัดฟังคำวินิจฉัยศาลคดีล้มล้างการปกครองฯ และ คดีคดีกู้เงิน ซึ่งโทษของคดีอาจนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ ว่า

ไม่หวั่นแม้อนาคตใหม่ถูกยุบ ก็พร้อมเดินหน้าสู้ต่อ เพราะอุดมการณ์ยังอยู่

ไม่กังวล คงไม่มีความคิดเห็นอะไร เพราะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ ปากกาและอำนาจอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้ายุบพรรคก็พร้อมสู้ต่อ เพราะอุดมการณ์ยังอยู่ พรรคอนาคตใหม่คือการเดินทางและผู้คน คือจิตวิญญาณที่แน่วแน่ที่จะสร้างสรรค์ประชาธิปไตยในประเทศไทย และทำให้สังคมไทยมีความเสมอภาค ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ

ดังนั้นยุบพรรคยุบได้ แต่จะยุบอุดมการณ์ หรือยุบความตั้งใจแน่วแน่อย่างนี้ไม่ได้ ยุบก็สร้างใหม่ ยุบก็สู้ต่อ ซึ่งหากโดนยุบพรรคเราก็ยังมีส.ส.ในสภาอยู่ ยุบพรรคไม่ได้หมายความว่า ส.ส.ของเราจะหายไป ส่วนเรื่องมีการแผน มีพรรคสำรองไว้แล้วหรือไม่นั้น”ให้รอดูดีกว่า”

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจบวงพูดคุยกับประชาชน นายธนาธรได้ร่วมกิจกรรมต่อกับคณะทำงานในจังหวัดนครนายก โดยร่วมรณรงค์ยกเลิกบังคับการเกณฑ์ทหารที่บริเวณตลาดโต้รุ่งนครนายก โดยระหว่างการรณรงค์ ได้มีประชาชนที่สนับสนุนเข้ามาพูดคุย ทักทายให้กำลังใจ และเข้ามาขอถ่ายรูปกับนายธนาธรด้วยเป็นจำนวนมาก