ข่าวรับน้อง ข่าวสดวันนี้ รับน้องโหด

ตร. แนะผู้เสียหายแจ้งความ หวังเอาผิดรับน้องโหด ม.ดังเชียงใหม่

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อนำเสนอข่าว แฉ! ม.ดังเชียงใหม่รับน้องโหด จนขาหัก ซึ่งมีผู้ใช้ออนไลน์ วิพากวิจารณ์ในโลกโซลเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง ว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.เชียงใหม่ ว่า…

Home / NEWS / ตร. แนะผู้เสียหายแจ้งความ หวังเอาผิดรับน้องโหด ม.ดังเชียงใหม่

ประเด็นน่าสนใจ

  • นศ.ถูกรุ่นพี่รับน้องโหดด้วยการใช้ไม้ห่อผ้าฟาดลำตัว-ขา เหตุเกิดใน ม.ดัง เชียงใหม่
  • ตร. เผยยังไม่มีผู้เสียหายแจ้งความ จึงยังไม่มีการสอบสวนดำเนินคดี
  • การทำร้ายร่างกาย จนเกิดอันตรายแก่ร่างกายจิตใจมีโทษคุก 2 ปี

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อนำเสนอข่าว แฉ! ม.ดังเชียงใหม่รับน้องโหด จนขาหัก ซึ่งมีผู้ใช้ออนไลน์ วิพากวิจารณ์ในโลกโซลเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง ว่า

ได้รับรายงานจาก ภ.จว.เชียงใหม่ ว่า จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่โจ้ จว.เชียงใหม่ ได้เร่งสืบสวน พิสูจน์ทราบเหตุที่เกิดขึ้น ตลอดจนประสานงานไปยังมหาวิทยาลัย ให้ช่วยตรวจสอบข้อมูล ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่มีผู้ใดมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม การทำร้ายแรงกายผู้อื่นนั้น เป็นความผิดอาญา โดยจากการตรวจสอบภาพถ่ายที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์แล้วอาจเข้าข่ายความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อ. อาญา มาตรา 295

และ หากเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-200,000 บาท ตาม ป.อ. อาญา มาตรา 297 ซึ่งผู้เสียหายสามารถมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อีกทั้งขอฝากเตือน ไปยังรุ่นพี่ของสถาบันต่างๆ หากจะจัดกิจกรรม การรับน้องตามประเพณีหรืธรรมเนียมปฏิบัติของสถาบัน ควรจัดกิจกรรมที่เป็นไปในแนวสร้างสรรค์ เน้นถึงความรักความสามัคคีของหมู่คณะที่มีต่อสถาบัน ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตร่างกาย จิตใจ ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม

และควรปรึกษาครูฝ่ายปกครองหรืออาจารย์ที่รับผิดชอบ เพื่อช่วยกำกับดูแลถึงความเหมาะสมความปลอดภัยของผู้ร่วมกิจกรรม หากทำไปโดยพละการไม่ว่าจะเป็นด้วยความคึกคะนองหรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วเกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียถึงขั้นชีวิต ตัวผู้กระทำเองก็จะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เสียชื่อ เสียประวัติ และอนาคต

ทั้งนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชันจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับและมีความห่วงใยในเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะที่ผ่านมามีความสูญเสียถึงแก่ชีวิตไปแล้วจำนวนหลายราย โดยขอฝากไปยังผู้บริหารคณะครูอาจารย์ของสถาบันต่างๆ

ให้ช่วยลงมากำกับดูแลและเข้มงวดในการจัดกิจกรรมของนักเรียนนักศึกษา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ เมื่อเกิดเหตุแล้วอาจนำมาซึ่งความสูญเสีย ความเสียใจและไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้