ล่อซื้อ ล่อซื้อลิขสิทธิ์

โผล่อีก! สาวเข้าแจ้งความ หลังถูกล่อซื้อ “แก้วเยติ ลายการ์ตูนดัง”

นางสาวพมหอม หลวงทิลาด สัญชาติลาว ผู้เสียหายซึ่งเคยถูกจับกุมในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ เข้าแจ้งความ กับตำรวจนครบาลพญาไท หลังถูกชายที่อ้างว่าเป็นตัวแทนปราบปรามทรัพย์สินทางปัญญา จับกุมและเรียกเงิน จำนวน 30,000 บาท หลังถูกล่อซื้อถุงใส่แก้วน้ำลายการ์ตูนเรื่องวันพีช หลังทราบข่าวการล่อซื้อกระทง “รีลัคคุมะ” จากเด็กสาววัย…

Home / NEWS / โผล่อีก! สาวเข้าแจ้งความ หลังถูกล่อซื้อ “แก้วเยติ ลายการ์ตูนดัง”

ประเด็นน่าสนใจ

  • สาวลาวแจ้งความถูกล่อซื้อ “แก้วเยติ”
  • เจ้าตัวเผย ถูกล่อซื้อ จับกุมและเรียกเงิน จำนวน 30,000 บาท

นางสาวพมหอม หลวงทิลาด สัญชาติลาว ผู้เสียหายซึ่งเคยถูกจับกุมในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ เข้าแจ้งความ กับตำรวจนครบาลพญาไท หลังถูกชายที่อ้างว่าเป็นตัวแทนปราบปรามทรัพย์สินทางปัญญา จับกุมและเรียกเงิน จำนวน 30,000 บาท

หลังถูกล่อซื้อถุงใส่แก้วน้ำลายการ์ตูนเรื่องวันพีช หลังทราบข่าวการล่อซื้อกระทง “รีลัคคุมะ” จากเด็กสาววัย 15 ปี ในจังหวัดนครราชสีมา จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

นางสาวพมหอม เล่าว่า ได้โพสต์ภาพแก้วเยติหรือแก้วเก็บความเย็นลายลิขสิทธิ์วันพีช ที่พี่มอบให้เป็นของขวัญวันเกิด จากนั้น 1-2 วัน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กทักข้อความติดต่อขอซื้อ โดยระบุว่า ต้องการลายการ์ตูนเรื่องวันพีช 10 ชุด พร้อมโอนเงินมัดจำมา 500 บาท

แต่ตอนนั้นยังไม่มีของเพราะไม่ได้ขายเป็นอาชีพ ทำเพียงเป็นรายได้เสริม จึงติดต่อไปว่าจะขอโอนเงินคืน แต่ทางผู้ล่อซื้อต้องการสินค้า ญาติพยายามช่วยหาจนพบลายการ์ตูนเรื่องวันพีช

ซึ่งลายที่ได้เป็นลายการ์ตูนตัวละคร “ลูฟี่” ก่อนจะนัดส่งมอบกัน ก่อนถูกจับ และเรียกเงินค่าลิขสิทธิ์ 60,000 บาท พร้อมพูดข่มขู่โดยอ้างกฎหมายว่า จะต้องอยู่ในห้องขังและจะติดคุก 5-6 เดือน ตนต่อรองและต้องจ่ายเงิน 30,000 บาท ต้องไปหยิบยืม

ส่วนที่จังหวัดนครปฐม นางสาวธมลวรรณ พร้อมไธสง หรือ น้องออม ชาวจังหวัดนครปฐม ที่โดนล่อซื้อแก้วเยติโดราเอม่อน ได้ขอความเป็นธรรม พร้อมเล่าว่า ได้เปิดเฟซบุ๊ก เพื่อขายแก้วเยติ หารายได้เป็นค่าเล่าเรียนแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว

จากนั้นก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กได้เข้ามาทักสอบถามราคาสั่งซื้อแก้วเยติโดราเอม่อน พร้อมสั่งแก้วเยติ ให้มีภาพการ์ตูนลายโดราเอม่อน จำนวน 5 ใบ ลายคลิตตี้ 5 ใบ ลายสติช 5 ใบ และอื่นๆ รวมเป็นเงิน 1,620 บาท และได้โอนเงินมัดจำเข้ามา 500 บาท

เมื่อถึงวันนัดรับแก้วเยติ มีชายแสดงตัวว่า เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์และตำรวจนอกเครื่องแบบได้คุมตัวน้องออม ไปที่โรงพัก พร้อมได้เรียกเงิน 50,000 บาท จึงขอลดได้ที่ 35,000 บาท หากไม่จ่ายต้องเข้าคุก

ส่วนที่จังหวัดนครสวรรค์ มีหญิงสาวได้เข้าให้ข้อมูลกับสื่อมวลชล เป็นอีกคนหนึ่งที่เดือดร้อน แตกต่างกันตรงที่ไม่ยอมจ่ายเงินตามคำขู่ของตัวแทนลิขสิทธิ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เลือกที่จะต่อสู้ตามขั้นตอนและกระบวนการทางกฏหมายแทน

นางสาวสุดาทิพย์ ดวงจินดา แม่ค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์บอกว่า เมื่อวันที่3 พฤศจิกายน 2562 ตนเองถูกสั่งซื้อสินค้าที่มีรูปเป็ดเหลืองเป็นเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นอย่างละ 3 ตัว ก่อนนำไปส่งและถูกจับก่อนนำตัวไปห้องสืบสวนโรงพัก

โดยตัวแทนลิขสิทธิ์นั้นเรียกรับเงิน 25,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งตนเองนั้นไม่ยอมจ่ายเงินตามจำนวนนั้นและขอประกันตัวด้วยจำนวนเงิน 50,000 บาท พร้อมได้ตั้งข้อสงสัยพฤติกรรมของตัวแทนลิขสิทธิ์ที่ไม่ให้ดูบัตรตัวแทนลิขสิทธิ์ กับรายละเอียดการจับกุมที่ไม่ชัดเจนว่า รูปลายเป็ด(duck kab kab)ของบริษัทที่ส่งตัวแทนเข้ามาจับตนนั้นมีจริงหรือไม่ เนื่องจากไม่พบข้อมูลในอินเตอร์เน็ต

ส่วนบริษัท จีเอ็ม สโตร์ แอนด์ คาเฟ่ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ B Duck Thailand (บีดัก ไทยแลนด์) ผู้ถือครองลิขสิทธิ์เป็ดเหลืองจากฮ่องกงแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ยืนยันว่า บริษัทไม่มีนโยบายเกี่ยวกับการมอบอำนาจให้กับบุคคลใดเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ไปทำการล่อซื้อจับกุม ซึ่งการจับกุมทางบริษัทจะทำการลงพื้นที่ไปจับกุมเองพร้อมทีมกฎหมาย

ส่วนเป็ดที่นางสาวสุดาทิพย์ ได้นำมาขายแล้วถูกจับกุมดูเปรียบเทียบกับภาพเป็ดของ B Duck Thailand ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ B Duck Thailand แต่ไม่รู้ว่ารูปเป็ดนี้จะมีใครนำไปจดลิขสิทธิ์หรือไม่ ในวันจันทร์นี้ก็จะนำหลักฐานต่างๆ เข้าไปร้องทุกข์กับตำรวจเพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง

ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา ครอบครัวของ น้องเอ วัยอายุ 15 ปี ที่ถูกล่อซื้อกระทง “รีลัคคุมะ” กำลังเร่งประดิษฐ์กระทงที่ทำขึ้นมาจากขนมปังกรวยไอศกรีมหลากหลายสีสัน เพื่อนำไปขายในงานลอยกระทง ในวันนี้ ซึ่งน้องเอบอกว่ากระทงจะไม่มีลาดลายการ์ตูนใดๆ ที่อาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์อีก

นายธวัชชัย พลแหง พ่อของน้องเอ ระบุว่า อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับตัวแทนลิขสิทธิ์ให้ถึงที่สุด และให้คดีจบโดยเร็ว ซึ่งตอนนี้ยังห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะที่บ้านมีแต่ผู้หญิง และเด็ก ส่วนการจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวแทนลิขสิทธิ์หรือไม่นั้น ก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ยืนยันว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้