ความคืบหน้าพ่อเลี้ยงและแม่แท้ ๆ ทารุณลูกน้อยวัย 1 ขวบ 11 เดือน
จากกรณี นางชนันธิดา สุดรอด พนักงานคุ้มครองเด็ก บ้านเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร พร้อมด้วยนางจีรพรรณ เข็มเพชร นักพัฒนาชุมชน อบต.ละแม ตำรวจสายตรวจตำบลละแม นำร่าง ของเด็กชายเก่ง(นามสมมุติ) อายุ 1ขวบ 11 เดือน ส่งโรงพยาบาลละแม เพื่อทำการตรวจอย่างเร่งด่วน พบว่าที่เบ้าตาทั้งสองข้างมีรอยเขียวซ้ำที่แขนขวา หน้าอก แผ่นหลัง มีรอยฟันกัดเขี้ยวคล้ำ ตามร่างกายอีกหลายจุด มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย นอกจากนั้นบริเวณทรวงอกยังมี่ร่องรอยซ้ำภายในที่ต้องใช้การสแกนเพื่อตรวจสอบอวัยวะภายในซึ่งต้องส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อ.เมืองชุมพร
จากการตรวจเลือดเด็กที่โรงพยาบาลละแมยังพบว่า พบสภาวะขาดสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กในวัยนี้ จนทำให้เกล็ดเลือดต่ำอย่างหนัก จากมาตรฐาน 33 พบว่ามีเพียง 14 ซึ่งถือได้ว่ากำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตอาจช็อคเสียชีวิตได้ แพทย์ลงความเห็นว่า ต้องรีบนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลชุมพรที่มีเครื่องมือที่ดีกว่าและมีแพทย์เฉพาะทางที่จะรักษาได้ดีกว่า หลังจากจึงให้เลือดและนำขึ้นรถฉุกเฉินส่งต่อโรงพยาบาลชุมพรฯ ทันทีสาเหตุมาจากการกระทำของพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆตามข่าวที่นำเสนอมาแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 11 มค.62 ที่อาคารออโธปิดิคโรงพยาบาลชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ อ.เมือง จ.ชุมพร นางวาสนา ปัจฉิมเพชร รองนายกเหล่ากาชาดชุมพร นางสาววัลภา แก้วสวี พมจ.ชุมพร คณะเหล่ากาชาดชุมพรคณะแพทย์พยาบาลผู้รักษา ดช. เก่ง เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของ ดช.เก่งพบว่า ทั้งนายฉัตรชัย(นามสมมุติ) พ่อเลี้ยง และ นางสวย(นามสมมุติ) แม้แท้ๆ กำลังดูแลประคบประหงม ดช.เก่ง บนเตียงคนไข้ในรพ. สภาพของ ดช.เก่ง มีอาการดีขึ้นเล็กน้อยแต่ขอบตายังเขียวคล้ำ ตามร่างกายยังมีร่องรอยแผลที่ถูกกระทำเล็กน้อย แต่มีสีหน้าที่สดชื่นกว่าเมื่อวานนี้มาก
ดช.เก่ง ยิ้มและ จับมือของผู้ที่เดินทางเข้าเยี่ยม เหมือนจะรับรู้ถึงความห่วงใย คณะแพทย์ได้บอกถึงอาการว่า เมื่อได้รับการรักษาพยาบาลอาการต่างๆจะดีขึ้นตามลำดับ อีกทั้งได้รับอาหารที่มีประโยชน์ กะโหลกร้าวก็ไม่รุนแรงมากร่างกายของน้องจะปรับตัวได้เร็วจากความที่เป็นเด็ก ส่วนสภาพจิตใจยังคงมีผลกระทบไม่มากนักถ้าในอนาคตพ่อแม่ของเด็ก จะช่วยดูแลให้ความรักแก่ลูกอย่างเต็มที่
ในขณะที่นางวาสนา ปัจฉิมเพชร รองนายกเหล่ากาชาดชุมพรกล่าวว่า “ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของน้องด้วยความเป็นห่วงและนำสิ่งของจำเป็นมามอบให้ และจะได้ติดตามการใช้ชีวิตของครอบครัวนี้อย่างใกล้ชิดโดยมี พมจ.ชุมพรจะเป็นผู้ติดตาม ในขณะนี้ได้ ปรับความเข้าใจให้พ่อเลี้ยงและ แม่ มีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ที่ต้องมีต่อน้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการทำร้ายร่างกายต้องงด เนื่องจากผิดกฏหมายแต่ในช่วงนี้เด็กยังคงอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวชุมพรจนกว่าเจ้าหน้าที่มีความมั่นใจว่า พ่อเลี้ยงและแม่พร้อมจะดูแลน้องได้ดี”
ในส่วนของพ่อเลี้ยงและแม่กล่าวยอมรับว่า “ที่ให้ เด็กกินมาม่า เพราะความยากจนและเมื่อเด็กงอแงก็มีการตีบ้างแต่ไม่นึกว่าจะส่งผลรุนแรงกับลูกส่วนยาเสพติดนั้นยืนยันว่าไมได้ยุ่งเกี่ยว รวมถึงผลการตรวจเลือดก็ไม่พบสารเสพติดเช่นกัน ต่อไปจะเอาใจใส่และรักลูกอย่างดี”